DSpace
 

DSpace at Bangkok University >
Cluster of Business & Management >
School of Business Administration >
Master Degree >
Independent Studies >

Please use this identifier to cite or link to this item: http://dspace.bu.ac.th/jspui/handle/123456789/958

Title: ผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนในหุ้นสามัญด้วยวิธีการลงทุนแบบเน้นคุณค่าในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
Authors: พิศาล วรฐิติชัยรักษ์
Keywords: การลงทุน
ผลตอบแทน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
Issue Date: 2554
Publisher: มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
Abstract: การค้นคว้าแบบอิสระ เรื่อง ผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนในหุ้นสามัญด้วยวิธีการลงทุนแบบเน้นคุณค่าในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนแบบเน้นคุณค่ากับผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนแบบสุ่ม ดัชนี ราคาตลาดหลักทรัพย์ ดัชนี SET50 และพันธบัตรรัฐบาล การศึกษาครั้งนี้จะใช้ข้อมูลรายปีในการ คำนวณหาอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลตั้งแต่สิ้นปีพ.ศ.2543 ถึงสิ้นปีพ.ศ.2553 รวมทั้งสิ้นเป็นระยะเวลา 10 ปี โดยใช้ราคาปิด ณ วันสิ้นปี และเงินปันผลรายปีในการคำนวณ การศึกษาใช้วิธีการเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนของการลงทุนแบบปีต่อปี แล้วหาค่าเฉลี่ยทั้ง 10 ปีเพื่อทาการเปรียบเทียบ สาหรับพอร์ตการลงทุนในหุ้นสามัญแบบเน้นคุณค่า หลักทรัพย์ที่เข้าหลักเกณฑ์ตามที่ผู้วิจัยได้ศึกษาประกอบไปด้วยหลักทรัพย์ 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ SSC, TF, ADVANC, IRC และ CPF ผลการศึกษาพบว่า อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนของพอร์ตการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยมากที่สุดเท่ากับ 39.73% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่ำที่สุดเท่ากับ 5.83% นอกจากนี้ Capital gain yield เฉลี่ย และ Dividend yield เฉลี่ยของพอร์ตการลงทุนแบบเน้นคุณค่ามีผลตอบแทนมากที่สุดเท่ากับ 32.89% และ 6.83% ตามลำดับ ในขณะที่ Capital gain yield เฉลี่ยของพันธบัตรรัฐบาลให้ผลตอบแทนเท่ากับ ศูนย์ เนื่องจากพันธบัตรรัฐบาลเมื่อครบกำหนดไถ่ถอนจะได้ราคาเท่ากับราคาหน้าตั๋ว ส่วน Dividend yield เฉลี่ยของดัชนี SET50 ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่ำที่สุดเท่ากับ 3.32% ส่วนอัตราผลตอบแทนของ ดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์และดัชนี SET50 มีผลตอบแทนใกล้เคียงกันคือเท่ากับ 25.14% และ 25.75% ตามลาดับ และ Capital gain yield เฉลี่ยของดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์และดัชนี SET50 มี ค่าเท่ากับ 21.79% และ 22.43% ตามลำดับ ในขณะที่ Dividend yield เฉลี่ยของดัชนีราคาตลาด หลักทรัพย์และดัชนี SET50 ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่ำที่สุดเท่ากับ 3.35% และ 3.32% ตามลำดับ สรุปจากการศึกษาพบว่า ถ้านักลงทุนได้ลงทุนตามหลักการการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ในระยะยาวแล้วนักลงทุนมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่นๆที่ได้ทาการศึกษา
Description: การศึกษาเฉพาะบุคคล (บธ.ม.)--บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, 2554
Subjects: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย--การศึกษาเฉพาะกรณี
การลงทุน--ไทย--การศึกษาเฉพาะกรณี
การส่งเสริมการลงทุน--ไทย--การศึกษาเฉพาะกรณี
การวิเคราะห์การลงทุน--ไทย--การศึกษาเฉพาะกรณี
หุ้นและการเล่นหุ้น--ไทย--การศึกษาเฉพาะกรณี
หุ้นสามัญ--ไทย--การศึกษาเฉพาะกรณี
อัตราผลตอบแทน--ไทย--การศึกษาเฉพาะกรณี
Advisor(s): ศุภเจตน์ จันทร์สาส์น
URI: http://dspace.bu.ac.th/jspui/handle/123456789/958
Appears in Collections:Independent Studies - Master
Independent Studies

Files in This Item:

File Description SizeFormat
pisal_wora.pdf3.06 MBAdobe PDFView/Open
View Statistics

Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.

 

  DSpace Software Copyright © 2002-2010  Duraspace - Feedback