การศึกษาปัจจัยส่วนประสมการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

Abstract

การศึกษาวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับการตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพ (2) เพื่อศึกษาส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพ และ (3) เพื่อศึกษาการรับรู้ความเสี่ยงที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพ เป็นการวิจัยเชิงปริมาณโดยใช้แบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างในจังหวัดกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยการสุ่มแบบ Non-Probability Sampling โดยวิธี Convenience Sampling จำนวน 400 คน ผลการศึกษาพบว่าส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 33 ปีขึ้นไป ระดับการศึกษาปริญญาตรี อาชีพลูกจ้างเอกชนหรือพนักงานบริษัท มีรายได้ต่อเดือน 20,001 - 30,000 บาท ซึ่งส่วนประสมการตลาดโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ด้านที่มีค่ามากที่สุดคือด้านผลิตภัณฑ์และด้านราคา ส่วนการรับรู้ความเสี่ยงโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับน้อยที่สุด ด้านที่มีค่ามากที่สุดคือด้านประสิทธิภาพ และการตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพ โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งด้านที่มีค่ามากที่สุดคือด้านความพฤติกรรมหลังการซื้อ ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า (1) อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ต่อเดือนของผู้บริโภคมีการตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนเพศของผู้บริโภคมีการตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพ ไม่แตกต่างกัน (2) ส่วนประสมทางการตลาดส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยด้านที่ส่งผลมากที่สุดคือ ด้านราคา ด้านส่งเสริมการตลาด และด้านผลิตภัณฑ์ ตามลำดับ ส่วนด้านการจัดจำหน่ายไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพ (3) การรับรู้ความเสี่ยงส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยด้านที่ส่งผลคือด้านประสิทธิภาพ ส่วนด้านการเงินไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพ

This study aimed to (1) Study and compare the relationship between personal factors and purchasing decision of health insurance, (2) Investigate the marketing mix affecting purchasing decision of health insurance, and (3) Examine the risk perception affecting purchasing decision of health insurance. This was a quantitative research study using a questionnaire with a sample in Bangkok metropolitan region. The participants were selected through non-probability sampling by Convenience Sampling totaling 400 individuals. The study found that the majority as female aged 33 years and older with bachelor’s degree and as a company employee with a monthly income of 20,001 - 30,000 Bath. The overall marketing mix had a maximum average score, with the most being product and price. The overall risk perception had a least average scored, with the most being ‘efficiency’. Overall purchasing decision of health insurance had a maximum average score, particularly in terms of post-purchase behavior. Hypothesis testing revealed that (1) There was a statistically significant difference at the .05 level in purchasing decision based on age, education level, occupation, and monthly income, while gender did not differences. (2) Marketing mix significantly affected purchasing decision at the .05 level, with the most influential aspects being price, promotion, and produce, in that order. place aspects did not impact purchasing decision. (3) Risk perception significantly affected purchasing decision at the .05 level, with the most impact coming from efficiency, while Financial did not affect purchasing decision.