DSpace at Bangkok University >
Cluster of Business & Management >
School of Business Administration >
Master Degree >
Independent Studies >
Please use this identifier to cite or link to this item:
http://dspace.bu.ac.th/jspui/handle/123456789/573
|
Title: | ความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างเงินทุนกับมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐศาสตร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์และการจ่ายเงินปันผลของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ กลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน หมวดธนาคาร |
Authors: | วราลี ทองพุ่มพฤกษา |
Keywords: | บริษัทมหาชน มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐศาสตร์ เงินทุน เงินปันผล ธนาคารและการธนาคาร |
Issue Date: | 2553 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยกรุงเทพ |
Abstract: | โครงสร้างเงินทุนเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากเป็นแหล่งเงินทุนเพอื่
การบริหารงานหรือลงทุนในโครงการใหม่ ๆ ถ้าบริษัทสามารถบริหารต้นทุนของเงินทุนรวม
ทั้งหมดให้อยู่ในระดับที่ต่ำที่สุด จะทำให้มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐศาสตร์เพิ่มสูงขึ้น งานวิจัยนี้เป็น
ประโยชน์ต่อผู้บริหารในการนำข้อมูลไปใช้ประกอบการตัดสินใจในการกำหนดโครงสร้างเงินทุน
ที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนในการวิเคราะห์ประกอบการตัดสินใจลงทุนเพื่อลด
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัยฉบับนี้ คือ บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่ง
ประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน หมวดธนาคาร จำนวน 11 บริษัท ช่วงปี พ.ศ. 2548 ถึง
พ.ศ. 2552 รวมจำนวนตัวอย่างทั้งสิ้น 55 ตัวอย่าง
ผลการศึกษาพบว่าบริษัทที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน หมวดธนาคาร จะใช้
หนี้สินมากกว่าส่วนของผู้ถือหุ้นในโครงสร้างเงินทุน เนื่องจากบริษัทจำเป็นต้องมีเงินสดจำนวน
มาก เพื่อให้มีความสามารถในการจ่ายเงินตามภาระผูกพันที่บริษัทมีต่อบุคคลอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็น
ความต้องการสินเชื่อ หรือการถอนเงิน โดยบริษัทมีการจัดหาเงินทุนตามลำดับขั้น เนื่องจากจะทำ
ให้บริษัทมีต้นทุนของเงินทุนที่ต่ำ ส่งผลให้มูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐศาสตร์สูง แต่การที่บริษัทมีหนี้สินที่
มากส่งผลให้ผู้ถือหุ้นมีความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้ราคาหลักทรัพย์ต่ำ อีกทั้งยังทำให้เงินปันผลต่ำ
เนื่องจากมีภาระผูกพันในการจ่ายดอกเบี้ยจำนวนมาก สำหรับโครงสร้างเงินทุนไม่มีความสัมพันธ์
กับราคาหลักทรัพย์ ซึ่งราคาหลักทรัพย์ของอุตสาหกรรมนี้อาจเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ก็ได้ เช่น ปัจจัยด้านการแข่งขันภายในอุตสาหกรรม ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ ปัจจัยด้านการเมือง เป็นต้น สำหรับ
มูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐศาสตร์มีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงกันข้ามกับราคาหลักทรัพย์ เนื่องจากการที่
บริษัทมีหนี้สินที่สูงกว่าส่วนของผู้ถือหุ้น ทำให้มูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐศาสตร์สูง แต่มีราคาหลักทรัพย์
ที่ต่ำ เนื่องจากผู้ถือหุ้นมีความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น สำหรับโครงสร้างเงินทุนไม่มีความสัมพันธ์กับการ
จ่ายเงินปันผล และสำหรับมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐศาสตร์ไม่มีความสัมพันธ์กับการจ่ายเงินปันผล
เนื่องจากการจ่ายเงินปันผลของอุตสาหกรรมนี้ อาจเกิดจากปัจจัยอื่น เช่น นโยบายการจ่ายเงินปันผล
ของบริษัท หรืออื่น ๆ เป็นต้น |
Description: | การศึกษาเฉพาะบุคคล (บธ.ม.)--บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, 2552 |
Subjects: | บริษัทมหาชน--ไทย--การศึกษาเฉพาะกรณี มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐศาสตร์--ไทย--การศึกษาเฉพาะกรณี เงินทุน--ไทย--การศึกษาเฉพาะกรณี เงินปันผล--ไทย--การศึกษาเฉพาะกรณี ธนาคารและการธนาคาร--ไทย--การศึกษาเฉพาะกรณี |
Advisor(s): | ชุติมาวดี ทองจีน |
URI: | http://dspace2.bu.ac.th/jspui/handle/123456789/573 |
Appears in Collections: | Independent Studies - Master Independent Studies
|
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.
|