ปัจจัยทางสภาพแวดล้อม ปัจจัยด้านภาวะผู้นำ และปัจจัยแรงจูงใจ ที่ส่งผลต่อประสิทธิผลในการดำเนินงานของพนักงานบริษัทเอกชนใน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

Abstract

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความแตกต่างด้านสภาพแวดล้อม อิทธิพลของภาวะผู้นำแบบต่างๆ และอิทธิพลของแรงจูงใจที่ส่งผลต่อประสิทธิผลในการดำเนินงานของพนักงานบริษัทเอกชน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยดําเนินการวิจัย โดยเก็บข้อมูลจากพนักงานบริษัทเอกชน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 400 คน โดยวิธีการคำนวณตัวอย่างของทาโร่ ยามาเน่ และสุ่มตัวอย่างแบบอย่างง่าย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วยการวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า (1) ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีช่วงอายุ 26-35 ปี มีระดับการศึกษาปริญญาตรี มีสถานภาพโสด มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 15,001-30,000 บาท มีอายุงานมากกว่า 4 ปี มีสถานะการทำงานเป็นพนักงานประจำ ส่วนใหญ่มีตำแหน่งงาน ส่วนใหญ่ไม่มีผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และส่วนใหญ่ปฏิบัติงานที่สำนักงาน (2) พนักงานมีความเห็นด้วยของปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม อยู่ในระดับมาก (3) พนักงานมีความเห็นด้วยของปัจจัยภาวะผู้นำ อยู่ในระดับมาก (4) พนักงานมีความเห็นด้วยของปัจจัยแรงจูงใจ อยู่ในระดับมาก (5) พนักงานมีความเห็นด้วยของประสิทธิผลในการดำเนินงานของพนักงานบริษัทเอกชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่า พนักงานมีความเห็นด้วย อยู่ในระดับมาก นอกจากนี้ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า (1) สภาพแวดล้อม ประกอบด้วย ด้านกายภาพ ด้านเวลา และด้านจิตวิทยาและสังคม มีอิทธิพลต่อการดำเนินงานของพนักงานบริษัทเอกชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (2) พบว่า ปัจจัยด้านภาวะผู้นำ ได้แก่ แบบสนับสนุน แบบสั่งการ แบบมุ่งความสำเร็จ และแบบมีส่วนร่วม มีอิทธิพลต่อการดำเนินงานของพนักงานบริษัทเอกชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (3) ปัจจัยด้านแรงจูงใจ ได้แก่ ปัจจัยจูงใจ และปัจจัยค้ำจุน มีอิทธิพลต่อการดำเนินงานของพนักงานบริษัทเอกชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05

The objectives of this research were to study environmental differences, the influence of various types of leadership, and the influence of motivation that affect the operational effectiveness of employees of private companies in Bangkok and metropolitan areas by conducting research. By collecting data from 400 sample employees of private companies in Bangkok and metropolitan areas by using sample calculating formula of Taro Yamane’s. Statistics used to analyze data include frequency, percentage, mean, and standard deviation, and test hypotheses by analyzing multiple regression equations. The results showed that (1) most respondents were male aged between 26-35 years with bachelor's degree, single status, average monthly income of 15,001-30,000 baht and work more than 4 years. (2) Employees have a high level of opinion on environmental factors. (3) Employees agree on leadership factors at a high level. (4) Employees agree on motivational factors at a high level. (5) Employees agree on the effectiveness of the operations of private companies. In addition, the results of the hypothesis test showed that (1) the environment consists of physical, temporal, and psychological and social aspects influenced the operations of employees of private companies in Bangkok and metropolitan areas.(2) Leadership factors included supporting, commanding, success, and participatory influenced the operations of employees of private companies in Bangkok and metropolitan areas and (3) Motivational factors included motivational factors and hygiene factors influenced the operations of employees of private companies in Bangkok and metropolitan areas with statistically significance of 0.05.