การเปรียบเทียบการเปิดรับสื่อระหว่างเวยบ๋อกับโต่วอินที่มีต่อความไว้วางใจและการตั้งใจท่องเที่ยวประเทศไทยยุคโควิด-19 ของคนจีนในมณฑลกวางสี

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาความแตกต่างทางลักษณะทางประชากรของคนจีนในมณฑลกวางสี ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพและรายได้ที่แตกต่างกัน มีความไว้วางใจการท่องเที่ยวในประเทศไทยยุคโควิด-19 2) เพื่อศึกษาความแตกต่างของลักษณะทางประชากรของคนจีนในมณฑลกวางสี ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ที่แตกต่างกัน มีความตั้งใจท่องเที่ยวในประเทศไทยยุคโควิด-19 3) เพื่อศึกษาความแตกต่างกันของประชาชนชาวจีนในมณฑลกวางสีที่เปิดรับสื่อสังคมออนไลน์ที่แตกต่างกัน ได้แก่ เวยบ๋อ และโต่วอิน มีความไว้วางใจการท่องเที่ยวในประเทศไทยในยุคโควิด-19 4) เพื่อศึกษาความแตกต่างกันของประชาชนชาวจีนในมณฑลกวางสีที่เปิดรับสื่อสังคมออนไลน์ที่แตกต่างกัน ได้แก่ เวยบ๋อ และโต่วอิน มีความตั้งใจการท่องเที่ยวในประเทศไทยในยุคโควิด-19 5) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความไว้วางใจในการท่องเที่ยวประเทศไทยในยุคโควิด-19 กับความตั้งใจท่องเที่ยวประเทศไทยในยุคโควิด-19 ของชาวจีนในมณฑลกวางสี โดยผู้วิจัยได้ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมด 400 ชุด วิธีการทางสถิติแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ สถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ สถิติทดสอบหาความแตกต่างค่าที (T-test) สถิติทดสอบความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA) และสถิติค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson Product Moment Correlation Coefficient) ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างเพศหญิง อายุระหว่าง 18-25 ปี ระดับการศึกษาเป็นปริญญาโท รายได้ต่อเดือนต่ำกว่าหรือเทียบเท่ากับ 3,000 หยวน อาชีพนักเรียน นักศึกษามีความไว้วางใจต่อประเทศไทยมากที่สุดและอายุระหว่าง 18-25 ปี ระดับการศึกษาเป็นปริญญาตรี รายได้ต่อเดือนต่ำกว่าหรือเทียบเท่ากับ 3,000 หยวน อาชีพนักเรียน นักศึกษามีความตั้งใจต่อการท่องเที่ยวประเทศไทยมากที่สุด จากการทดสมมติฐานพบว่า 1) ตัวอย่างที่มี เพศ อายุ อาชีพ รายได้ต่อเดือน ระดับการศึกษาที่แตกต่างกันมีความไว้ใจท่องเที่ยวประเทศไทยแตกต่างกัน 2) ตัวอย่างที่มีอายุ อาชีพ รายได้ต่อเดือน ระดับการศึกษาที่แตกต่างกัน มีความไว้ใจท่องเที่ยวประเทศไทยแตกต่างกัน 3) การเปิดรับสื่อสังคมออนไลน์ที่แตกต่างกัน ได้แก่ เวยบ๋อ และโต่วอิน มีความไว้วางใจการท่องเที่ยวในประเทศไทยในยุคโควิด-19 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 4) การเปิดรับสื่อสังคมออนไลน์ที่แตกต่างกัน ได้แก่ เวยบ๋อ และโต่วอิน มีความตั้งใจการท่องเที่ยวในประเทศไทยในยุคโควิด-19 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ 0.05 5) ความไว้วางใจการท่องเที่ยวประเทศไทยในยุคโควิด-19 มีความสัมพันธ์กับความตั้งใจท่องเที่ยวประเทศไทยในยุคโควิด-19 ของชาวจีนในมณฑลกวางสี เป็นความสัมพันธ์ที่เป็นไปในทิศทางเชิงบวก โดยมีค่า Sig. มีค่าเท่ากับ 0.000 ซึ่งน้อยกว่าระดับนัยสำคัญ 0.05 มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ 0.731 มีความสัมพันธ์กันสูงมาก

This research aims to 1) study the differences in the demographic characteristics of the Chinese population in Guangzxi Province, including gender, age, level of education, career and different income. There are confidence in tourism in Thailand during the Covid-19 era. 2) study the differences in the demographic characteristics of the Chinese population in Guangxi Province include gender, age, level of education, career, and different income. There are intentions to travel to Thailand during the Covid-19 era. 3) study the differences of Chinese people in Guangxi Province with exposure to different social media, including Weibo and Douyin. There are confidence in tourism in Thailand during the Covid-19 era. 4) study the differences of Chinese people in Guangxi Province with exposure to different social media, including Weibo and Douyin. There are intentions to travel to Thailand during the Covid-19 era. 5) study the relationship between confidence in traveling to Thailand in the Covid-19 era and the intention to travel in Thailand in the Covid-19 era of the Chinese people in Guangxi Province.