ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด คุณค่าตราสินค้า และรูปแบบการดำเนินชีวิตที่ส่งผลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้อชาไข่มุกในกรุงเทพมหานคร

Abstract

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้อชาไข่มุกในกรุงเทพมหานคร 2) เพื่อศึกษาปัจจัยคุณค่าตราสินค้าที่มีผลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้อชาไข่มุกในกรุงเทพมหานคร 3) เพื่อศึกษารูปแบบการดำเนินชีวิตที่มีผลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้อชาไข่มุกในกรุงเทพมหานคร และ 4) เพื่อศึกษาหลักการในกระบวนการตัดสินใจซื้อชาไข่มุก ประชากร คือ ผู้บริโภคที่ดื่มเครื่องดื่มชาไข่มุกที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร ทั้งเพศชายและหญิง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้มีจำนวน 400 คน โดยใช้การสุ่มแบบกลุ่ม โดยแบ่งเขตที่เป็นย่านธุรกิจและบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา ได้แก่ เขตสาทร, เขตดินแดง, เขตคลองเตย และเขตปทุมวัน ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ และใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูล โดยมีการ Pre-Test เพื่อทดสอบความน่าเชื่อถือกับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 40 คน มีค่าความเชื่อมั่นรวม 0.956 และตรวจสอบความเที่ยงตรงของเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอ้างอิงที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ การวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุ ซึ่งมีตัวแปรอิสระ ได้แก่ ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด ปัจจัยคุณค่าตราสินค้า และรูปแบบการดำเนินชีวิต ส่วนตัวแปรตามคือ กระบวนการตัดสินใจซื้อสินค้า ผลการศึกษาของกลุ่มตัวอย่างที่ร้านชาไข่มุกทั้ง 4 เขต พบว่า ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด ปัจจัยคุณค่าตราสินค้า และรูปแบบการดำเนินชีวิตมีอิทธิพลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้อชาไข่มุกในกรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

This study aims to 1) to study marketing mix that effect to making decision process of bubble tea in Bangkok 2) to study brand equity that effect to making decision process of tea pearl in Bangkok 3) to study lifestyle that effect to making decision process of tea pearl in Bangkok 4) to study decision making process of tea pearl in Bangkok. The populations are male and female bubble tea consumers residing in Bangkok. The sample group in this study included 400 people. The cluster sampling was randomly divided into 4 zones near business area and education area (Satorn, Dindeang, Klongtoey and Phathumwan). This research was quantitative research. The questionnaire was used to collect data and a pre-test reliability test was performed with 40 samples. Cronbach Alpha = .956 and content validity were verified by experts. The data were analyzed by using Descriptive Statistics are percentage, mean, standard deviation and inferential statistics is multiple regression analysis. Independent variables were marketing mix, brand equity, and lifestyle. Dependent variable was who buyer’s decision process of tea pearl in Bangkok. The study of example in 4 areas showed that marketing mix, brand equity, and lifestyle influenced to buyer’s decision process of a tea pearl in Bangkok at the statistically significant level of 0.05.