แผนธุรกิจเสื้อผ้าพลัสไซส์แบรนด์ “POPPIN ‘TAGS”

Abstract

แผนธุรกิจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการทำแผนธุรกิจเสื้อผ้าพลัสไซส์ แบรนด์ “POPPIN ‘TAGS” มีการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ การจัดทำโมเดลธุรกิจ การวิเคราะห์คู่แข่งและการวิจัยตลาดโดยวิธีการสำรวจ ใช้แบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างที่เคยซื้อเสื้อผ้าผ่านช่องทางออนไลน์ จำนวนรวมทั้งหมด 100 ชุด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิเคราะห์ พบว่า จุดแข็งของธุรกิจเสื้อผ้าพลัสไซส์แบรนด์ “POPPIN ‘TAGS” คือ มีสินค้าหลากหลายประเภท ราคาที่ถูก มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จุดอ่อน คือ เป็นผู้ประกอบการรายใหม่ยังไม่เป็นที่รู้จัก ในขณะที่โอกาส คือ ในปัจจุบันแนวโน้มธุรกิจเสื้อผ้าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้หญิง และอุปสรรค คือ มีคู่แข่งขันจำนวนมาก คู่แข่งขันรายสำคัญ ได้แก่ Plussizesquare เว็บขายชุดพลัสไซส์ "อันดับ 1" จุดแข็ง คือ เป็นธุรกิจที่เปิดมานาน จุดอ่อน คือ ราคาสินค้าค่อนข้างสูง เมื่อพิจารณาผลการวิจัยตลาดพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เลือกซื้อเสื้อผ้าผ่านช่องทาง Facebook จำนวน 1-2 ครั้งต่อเดือน ส่วนใหญ่ซื้อเสื้อ โดยมีราคาการซื้อ 500 – 1,000 บาทต่อชิ้น ส่วนใหญ่ชำระเงินผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีผู้ขายสินค้า ปัจจัยในการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าผ่านช่องทางออนไลน์ พบว่า กลุ่มตัวอย่างให้ความสำคัญกับด้านความปลอดภัยมากที่สุด รองลงมา คือ ด้านความเป็นส่วนตัว ด้านการส่งเสริมการตลาด ด้านราคา ด้านการจัดจำหน่าย และด้านผลิตภัณฑ์ ตามลำดับ จากผลการวิเคราะห์ กลยุทธ์เสื้อผ้าพลัสไซส์ แบรนด์ “POPPIN ‘TAGS” ได้แก่ กลยุทธ์ด้านการบริหารจัดการองค์กรและทรัพยากรบุคคล กลยุทธ์ทางการตลาด กลยุทธ์การผลิตและการจัดซื้อ และกลยุทธ์ทางการเงินและการลงทุน โครงการนี้ใช้เงินลงทุนเท่ากับ 355,000 บาท โดยมีผลตอบแทนจากโครงการ (IRR) เท่ากับ 68% ค่าปัจจุบันสุทธิของโครงการ (NPV) เท่ากับ 716,318 และระยะเวลาคืนทุน เท่ากับ 1.694 ปี

This business plan aims to study the possibility of planning plus size clothing; “POPPIN ‘TAGS”. It would analyze the business environment, business model, rival and market analysis by surveying. The data would be collected by questionnaire among sample groups who used to buy an online shopping for 100 copies of questionnaire. The statistical analysis would be interpreted by frequency, percentage, average and standard deviation. The research results indicated that the strength of “POPPIN ‘TAGS” is the variety of products with cheap price and uniqueness. While, the weakness is new released which has no popular, in nowadays. However, the opportunities are the tendency of more and more popular on clothing business among women. The threats are a large number of rivals mainly as plussizesquare being the number one website for plus size clothing which has been founded for long time. However, plussizesquare’s weakness is high cost. As market analysis, the sample groups has bought clothing in online channel such as Facebook (1-2 times a month). Most of them often bought shirt (500-1,000 baht per piece). For transaction, they mostly conduct transferring through seller accounts. At the same time, for factors related to decision making for buying products in online, it demonstrated that they have most concerned about security followed by privacy, promotion, price, selling and predictions respectively. As the analysis results, branding strategy of “POPPIN ‘TAGS” is organizational and human resource management, market strategy, production strategy and financial and investment strategy. This plan invested about 355,000 bath by returning from IRR project about 68%. Presently, the total cost of project (NPV) are equally 716,318 which would be returned by 1.694 year.