การสำรวจรูปแบบการดำเนินชีวิตบนอินสตาแกรม

Abstract

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะของรูปแบบการดำเนินชีวิตบนอินสตาแกรม ด้วยวิธีการวิจัยเชิงสำรวจ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลกับกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นผู้ใช้อินสตาแกรมทั้งเพศชายและเพศหญิงที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร ที่มีอายุระหว่าง 21-50 ปี จำนวน 200 คน ซึ่งในการศึกษารูปแบบการดำเนินชีวิตในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือ กิจกรรมบนอินสตาแกรม ความสนใจบนอินสตาแกรม และความคิดเห็นเกี่ยวกับอินสตาแกรม โดยจากผลการวิจัยพบว่า กิจกรรมที่ผู้ใช้อินสตาแกรมทำมากที่สุด คือ การกดติดตาม (Follow) เพื่อนและคนรู้จัก (M = 4.00) ในขณะที่กิจกรรมที่ผู้ใช้อินสตาแกรมทำน้อยที่สุด คือ การแสดงความคิดเห็น (Comment) บนอินสตาแกรมสื่อข่าวหลัก (M = 1.57) สำหรับสิ่งที่กลุ่มตัวอย่างให้ความสนใจบนอินสตาแกรมมากที่สุด คือ การดูอินสตาแกรมของเพื่อน/ครอบครัว (M = 3.97) ส่วนสิ่งที่กลุ่มตัวอย่างให้ความสนใจน้อยที่สุดคือ การดูโพสต์เกี่ยวกับธรรมมะ (M = 2.63) และสุดท้าย ในส่วนของความคิดเห็นนั้น กลุ่มตัวอย่างเห็นด้วยมากที่สุดว่า อินสตาแกรมง่ายต่อการเข้าถึง สะดวก และรวดเร็ว (M = 4.09) อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างเห็นด้วยน้อยที่สุดว่า อินสตาแกรมช่วยให้หลีกหนีปัญหาที่ต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน (M = 3.05)

The purpose of this research was to study lifestyle on Instagram. A survey research was conducted through a self-administrative questionnaire with 200 male and female Instagram users, aged between 21-50 years old in Bangkok. In this research, lifestyle was divided into three areas - activities, interests, and opinions. In terms of activities, the results showed that following friends and acquaintances was the highest rated activity (M = 4.00), while the least rated activity was commenting on the media’s Instragram official account (M = 1.57). For interests, the sampling were most interested in checking on their friends and family’s Instragram accounts (M = 3.97), whereas Dhamma’s Instragram page was rated the lowest (M = 2.63). For opinions, those sampling mostly agreed that Instagram was easy to access, convenient, and rapid. However, they least agreed that using Instagram would help them escape their problematic issues (M = 3.05).