การศึกษาวัฒนธรรมองค์กร แรงจูงใจที่มีต่อความจงรักภักดีต่อองค์กรของพนักงานบริษัท เคอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด

Abstract

การศึกษาวัฒนธรรมองค์กร แรงจูงใจที่มีต่อความจงรักภักดีต่อองค์กร ของพนักงาน บริษัท เคอรี่ (ประเทศไทย) จํากัด มีการกำหนดวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความแตกต่างของปัจจัยส่วนบุคคลที่มีผลต่อความจงรักภักดีของพนักงานบริษัท เคอรี่(ประเทศไทย) จำกัด 2.) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของวัฒนธรรมองค์กรกับความจงรักภักดีต่อองค์กรของพนักงาน บริษัท เคอรี่ (ประเทศไทย) จํากัด 3.) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของแรงจูงใจกับความจงรักภักดีต่อองค์กรของพนักงาน บริษัท เคอรี่ (ประเทศไทย) จํากัด โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลและทดสอบความเที่ยงตรงของเนื้อหาและความน่าเชื่อถือด้วยวิธีของดรอนบาร์ดกับกลุ่มตัวอย่าง 30 คน ได้ระดับความเชื่อมั่น 0.81 โดยแจกให้กับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน โดยวิธีการทางสถิติแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ สถิติพรรณนาและสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ การวิเคราะห์ความสัมพันธ์แบบเพียร์สันและการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 21-30 ปี มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษา/ปวช ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน 5-10ปี กลุ่มตัวอย่างมีความจงรักภักดีต่อองค์กรในระดับมากที่สุด เพศ อายุ ระดับการศึกษาและระยะ เวลาในการปฏิบัติงานที่แตกต่างกัน มีผลต่อความจงรักภักดีต่อองค์กรไม่แตกต่างกัน วัฒนธรรมองค์กรไม่มีความสัมพันธ์กับความจงรักภักดีต่อองค์กร (r=-0.860) และแรงจูงใจ มีความสัมพันธ์เชิงบวกในระดับต่ำกับความจงรักภักดีต่อองค์กร(r=0.280)

The objectives of this research were 1) to study the difference of personal factors affecting organizational loyalty of the employees at Kerry (Thailand) Co., Ltd., 2) to examine the relationship between the organizational culture and the employee loyalty, and 3) to analyze the relationship between the motivation and the employee loyalty. Questionnaires were used as the data collection tool after being checked for the content validity and reliability using the Cronbach’s Alpha test with a sample group of 30, and had a reliability value of 0.81. The questionnaires were distributed to 400 employees at Kerry (Thailand) Co., Ltd. The statistical data analysis was conducted using the descriptive statistics and the inferential statistics including Pearson’s Correlation Analysis. Demographic data showed that most respondents were female, aged 21-30 years old, had a high school diploma/vocational certificate, and employment period of 5-10 years. The results of the study revealed that the respondents’ organizational loyalty was at the highest level. Different personal factors including gender, age, academic degree, and employment period had no different effect on their loyalty. In addition, there was no relationship between the organizational culture and the organizational loyalty (r = 0.860). It was also found that there was a positive relationship between the motivation and organizational loyalty, at a low level (r= 0.280).