โครงการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค และแผนการตลาด เพื่อพัฒนา Application Software เกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์

Abstract

โครงการศึกษาเฉพาะบุคคลนี้ได้ศึกษาพฤษติกรรมผู้บริโภค และ แผนการตลาดรวมไปถึง แนวทาง กลยุทธ์ทางด้านการตลาด เพื่อวิเคราะห์ความเป็นไปได้ ในการประกอบธุรกิจจัดทำแอปพลิเคชัน ที่เกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ งานวิจัยนี้จึงมีการใช้แบบสอบถาม เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อการวิจัยเชิงปริมาณ โดยการเก็บข้อมูลจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ แบบสอบถามถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษโดยใช้เนื้อหาเดียวกับฉบับภาษาไทย และทดสอบความตรงของเนื้อหา และความน่าเชื่อถือด้วยวิธีการหาขนาดกลุ่มตัวอย่างแบบไม่ทราบจำนวนประชากร ของคอแครนกับกลุ่ม ตัวอย่างจํานวน 385 คน ได้ระดับความเชื่อมั่น 95% ในส่วนของการวิจัยเชิงคุณภาพ ได้ใช้การสัมภาษณ์ผู้ประกอบการธุรกิจในเกาะรัตนโกสินทร์ เผื่อศึกษาแผนการตลาด และ การพัฒนาแอปพลิเคชัน เป็นการรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพโดยผู้วิจัยจะต้องทำ การวิเคราะห์ข้อมูลแบบสถิติเชิงพรรณนา และ สถิติเชิงอนุมาน ได้ผลการศึกษาพบว่า แหล่งท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ที่นักท่องเที่ยวส่วนมากเคยไปเยี่ยมชมส่วนมากจะอยู่ในบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ และ นักท่องเที่ยวสนใจในเรื่องการให้บริการของแอปพลิเคชั่นด้านการแสดงข้อมูลวัฒนธรมประเพณี มีความสำคัญเป็นอันดับสามรองจาก การมีแผนที่และวิธีการเดินทาง แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารและที่พัก ซึ่งสอดคล้องกับพื้นที่ทางวัฒนธรรมในเกาะรัตนโกสินทร์ ดังนั้น การจัดทำธุรกิจแอปพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม จึงมีแนวโน้มความเป็นไปได้ ในการประกอบธุรกิจกับนักท่องเที่ยวชาวไทย และ ต่างประเทศที่เดินทางเข้ามา ท่องเที่ยวในประเทศไทยและ ต้องการเข้ามาท่องเที่ยวบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ และมีโอกาศสูงที่ประสบความสำเร็จ

This cultural tourism application project has studied consumer's behaviors, marketing plans and marketing strategies to analyze the opportunity of running business through the application channel. For quantitative study, this research used questionnaires to collect data from random tourists, both Local and international, around Rattanakosin Island. The same questionnaire was translated into English for foreign participants to fill out. The research was checked the reliability, using Cochran’s sample size formula. The result was 95% from 385 participants. For qualitative study, the entrepreneurs in Rattanakosin Island were interviewed to collect data for marketing plan analysis and application developing. The data was analyzed, using descriptive statistics method and inferential statistics method. The result revealed that the most popular tourist attractions were located in Rattanakosin Island, and the tourists were interested in the application services that provide three parts of information consecutively; transporting instruction (map and direction), place recommendation (tourist attractions, restaurants and accommodations) and cultural information. Consequently, the result of this research showed positive tendency of opportunity, as well as possibility of succession, for this cultural tourism application business that targets the tourists in Rattanakosin Island area.