ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจออมเงินของกลุ่มคนวัยทำงานในเขตกรุงเทพมหานคร

Abstract

การศึกษาฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจออมเงินของกลุ่มคนวัยทำงานในเขตกรุงเทพมหานคร โดยทำการสำรวจเหตุผลที่กลุ่มคนในช่วงวัยทำงานใช้ในการตัดสินใจออมเงิน รวมถึงวิธีการออมเงินที่เป็นที่นิยมของกลุ่มคนในวัยดังกล่าว นอกจากนี้ยังได้ศึกษาถึงอิทธิพลของปัจจัยด้านส่วนผสมการตลาด ด้านผลตอบแทน และด้านสภาพคล่องที่มีต่อการตัดสินใจออมเงินของกลุ่มคนวัยทำงานในเขตกรุงเทพมหานครด้วย ตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษามาจากประชากรที่เป็นกลุ่มคนวัยทำงานในเขตกรุงเทพมหานคร โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบสะดวก จำนวน 400 ตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือแบบสอบถามที่กลุ่มตัวอย่างได้กรอกแบบสอบถามด้วยตนเอง มีค่าความเชื่อถือได้ ร้อยละ 95 และมีการตรวจสอบความเที่ยงตรงของเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติเชิงพรรณนาได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอ้างอิง ที่ใช้ในการวิเคราะห์เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านส่วนผสมการตลาด ด้านผลตอบแทน และด้านสภาพคล่อง กับการตัดสินใจออมเงิน คือ การวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุ (Multiple Regression) ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างเลือกออมเงินด้วยวิธีการฝากเงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงินเป็นอันดับแรกมากที่สุด และเมื่อพิจารณาผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับอิทธิพลของปัจจัยด้านส่วนผสมการตลาด ด้านผลตอบแทน และด้านสภาพคล่องที่มีต่อการตัดสินใจออมเงินของกลุ่มคนวัยทำงานในเขตกรุงเทพมหานครนั้น จะพบว่า มีเพียงปัจจัยด้านผลตอบแทน และด้านสภาพคล่องเท่านั้นที่สามารถพยากรณ์การตัดสินใจออมเงินได้ ส่วนปัจจัยด้านส่วนผสมการตลาดนั้นไม่สามารถใช้พยากรณ์การตัดสินใจออมเงินได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

This study aims to investigate factors influencing money-saving decision of people in the working age group in the Bangkok metropolitan area. By conducting a survey, the reasons supporting people in the working age group to make a decision on money saving and the money saving methods of their choice have been identified. Moreover, the influences of the three groups of factors, namely marketing mix (4Ps), return, and liquidity, on money-saving decision have also been examined. Four hundred subjects are randomly selected from the population, people in the working age group in the Bangkok metropolitan area, by using the convenience sampling technique. Research instrument used in this study is a questionnaire which requires the subjects to complete by themselves. The reliability alpha is tested at 95 per cent, and the content validity is evaluated by an expert. Statistics for analyzing the data are descriptive statistics; i.e. percentages, means, and standard deviations; and inferential statistics for the analysis of the relationship between the three groups of factors, marketing mix (4Ps), return, and liquidity, and money-saving decision, which is multiple regression. It is found that most of the subjects rank banks and other financial institutes as their first choice for money saving. Regarding the influences of marketing mix (4Ps), return, and liquidity on money-saving decision of people in the working age group in the Bangkok metropolitan area, only the return and liquidity factors are found to be significantly influential, whereas the marketing mix (4Ps) is identified as having no statistical significance.