การศึกษาแบบภาวะของผู้นาที่มีต่อความพึงพอใจของพนักงานบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จากัด (มหาชน)

Abstract

การศึกษาเฉพาะบุคคลเรื่อง การศึกษาแบบภาวะของผู้นาที่มีต่อความพึงพอใจของพนักงานบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จากัด (มหาชน) เป็นการวิจัยแบบภาคสนามโดยใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของพนักงานบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จากัด (มหาชน) และเพื่อหาเสนอแนวทางในการกาหนดแบบภาวะของผู้นาที่มีต่อความพึงพอใจของพนักงาน ทั้งนี้ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ พนักงานดูแลลูกค้าทางโทรศัพท์บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จากัด (มหาชน) จานวน 400 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ สถิติร้อยละ (Percentage) การหาค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) วิธีหาค่า One-way ANOVA และใช้สถิติความถี่ (Frequency) ในการวิเคราะห์ข้อมูล ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสาคัญกับภาวะผู้นาแบบประชาธิปไตยภาวะผู้นาแบบเผด็จการและภาวะผู้นาแบบเสรีนิยมตามลาดับดังนี้ 1.ความคิดเห็นที่มีต่อความพึงพอใจของพนักงาน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่นจากัด (มหาชน) พบว่า พนักงานส่วนใหญ่มีความพึงพอใจ ภาวะผู้นาแบบประชาธิปไตย โดยคิดว่า การแก้ปัญหาในการทางานของผู้นา ควรที่จะคานึงถึงผลกระทบส่วนรวมขององค์กรเป็นหลัก โดยที่ผู้นาควรที่จะรักษาสัมพันธภาพที่ดีระหว่างผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อก่อให้เกิดผลดีมากยิ่งขึ้นในด้านการปฏิบัติงาน นอกจากนั้นแล้ว ผู้นาควรที่จะพยายามปลูกฝังผู้ใต้บังคับบัญชาให้มีความเสียสละ เพื่อประโยชน์กลุ่มและองค์กร 2. ส่วนความพึงพอใจภาวะผู้นาแบบเผด็จการนั้น พนักงานให้ความเห็นว่า ผู้นาควรที่จะกระตุ้นให้พนักงานเกิดความกระตือรือร้นในการทางานเสมอ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กรเป็นหลัก และเห็นด้วยว่า การทางานเพื่อให้เกิดผลสาเร็จนั้น ผู้นาควรจะต้องกาหนดเป้าหมาย หรือวัตถุประสงค์ของงานแต่ละครั้งให้กับพนักงานอย่างชัดเจน โดยยึดถือคาสั่งในการปฏิบัติงานเป็นเรื่องที่สาคัญที่สุด 3. ความพึงพอใจในภาวะผู้นาแบบเสรีนั้น พนักงานมีความเห็นว่า ผู้นาควรจัดประชุม ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ใต้บังคับบัญชาก่อนการตัดสินใจทุกครั้ง เพื่อให้เกิดการระดมความคิด และแก้ปัญหาโดยอาศัยความคิดเห็นจากทุกฝ่ายได้อย่างถูกต้อง โดยการสั่งการของผู้นาในแต่ละครั้งนั้น ควรที่จะเป็นไปในลักษณะการขอความช่วยเหลือมากกว่า โดยมุ่งเน้นให้ผู้ร่วมงานนั้น มองเห็นความสาคัญของงาน และบางครั้งผู้นาควรปล่อยให้พนักงานเรียนรู้ในการแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง เพื่อโอกาสในการก้าวหน้าทางด้านอาชีพการงานในอนาคต ดังนั้น อาจสรุปได้ว่า ผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสาคัญกับแบบภาวะผู้นาทั้ง 3 แบบ โดยผู้นาต้องให้ความสาคัญกับการแก้ไขปัญหาโดยคานึงถึงส่วนรวมเป็นหลัก แก้ไขปัญหาตามสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม และสามารถปรับตัวให้เข้าพนักงานได้เป็นอย่าง