การศึกษาอิทธิพลและวัดประสิทธิผลของการนำเสนอเนื้อหาในรูปแบบวิดีโอโฆษณา (Video Content) ผ่านการตลาดด้วยการเล่าเรื่อง (Storytelling Marketing) ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ขนมขัดฟันสำหรับสุนัข ภายใต้แบรนด์ Momo&Friends ผ่านแพลตฟอร์ม Facebook

Abstract

การวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาอิทธิผลของเนื้อหาผ่านการเล่าเรื่อง (Storytelling) ที่มีผลต่อการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้การทำแบบสอบถามเชิงลึก และ 2) เพื่อวัดประสิทธิผลของการนำเนื้อหาการเล่าเรื่องที่ใช้ในการสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Facebook โดยศึกษาความต้องการข้อมูลรายละเอียด และความต้องการซื้อสินค้า ผ่านแอปพลิเคชันรับส่งข้อความ (Messenger) ผู้วิจัยกำหนดคำถามในแบบสอบถามโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาอิทธิพลของเนื้อหาวิดีโอโฆษณาที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ขนมขัดฟันสำหรับสุนัข และนำเนื้อหาที่ได้จากแบบสอบถามมาสื่อสารผ่านแพลตฟอร์ม Facebook โดยมีกำหนดกลุ่มเป้าหมายหลักที่ต้องการจะสื่อสาร คือ สำหรับกลุ่มประชากรที่มีอายุ 25–54 ปี มีที่พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผลการวิจัยพบว่า เนื้อหาของวิดีโอโฆษณาที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า จำต้องมีเนื้อหาที่แสดงถึงข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้น แสดงถึงมาตรฐานเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในแบรนด์ ต้องสามารถดึงดูดและกระตุ้นความสนใจของกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามามีอารมณ์ร่วมกับเนื้อหาที่สื่อสารออกไป โดยกลุ่มเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพสำหรับการสื่อสารเนื้อหา เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ “การตัดสินใจซื้อ” นั้น คือ กลุ่มประชากรที่มีอายุ 25-34 ปี และ 35-44 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่มีสถิติเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมากที่สุดตามลำดับ

The purpose of this study were 1) to study the impact of storytelling-marketing content on the decision-making process of the target group through the use of Open-ended questionnaires and 2) to measure the effectiveness of using storytelling-marketing content through the use of Facebook social media platform. In other words, the demand for detailed information and product purchasing intent via the Messenger application was focused. A list of the questions on the questionnaire questions were designed to meet the objective of studying the influence of video advertisement content on the decision-making process for purchasing dog chew products. After that, the researcher used the insights gathered from the questionnaire to communicate through the Facebook platform. The primary target audience comprised individuals aged 25-54 residing in Bangkok and its metropolitan area. The results of this study revealed that the video advertisement content which influenced purchasing decisions must include information about the product, demonstrating standards to instill brand confidence. The video advertisement content should be able to attract and stimulate the target audience’s interest and evoke their emotions. The target effective communication group, aimed at achieving the objective of 'purchase decision-making, consisted of individuals aged 25-34 and 35-44 years old, who statistically represented the highest rates of pet ownership.