ปัจจัยที่มีผลต่อความพึงพอใจในคุณภาพการบริการของผู้ใช้บริการร้านนวดแผนไทย ในเขตพญาไทและเขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

Abstract

การศึกษาเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อความพึงพอใจในคุณภาพการบริการของผู้ใช้บริการร้านนวด แผนไทย ในเขตพญาไทและเขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เป็นการศึกษาเชิงปริมาณ (Quantitative Research) โดยมีกลุ่มตัวอย่างในการศึกษา ได้แก่ ผู้ใช้บริการร้านนวดแผนไทย ในเขตพญาไทและเขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ระหว่าง พ.ศ. 2565-2566 และวิเคราะห์ข้อมูลโดย ANOVA t-test F-test รวมถึงการถดถอยเชิงพหุ (Multiple Regression) ผลการศึกษา พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนมากเป็นเพศชาย มีอายุมากกว่า 21-30 ปี สถานภาพโสด ระดับการศึกษาที่ปริญญาตรี อาชีพพนักงานบริษัทเอกชน และมีรายได้ 15,001-25,000 บาท ตามลำดับ ส่วนด้านการใช้บริการพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนมากมักใช้บริการนวดแผนไทยคนเดียว โดยมีการใช้บริการ 2-3 ครั้ง/เดือน ใช้บริการในเวลา ช่วง 16.00-18.00 น. ใช้บริการ 1 ครั้ง ต่อสัปดาห์ มีค่าใช้จ่ายในการใช้บริการมากกว่า 200 แต่ไม่เกิน 300 บาท และชำระเงินผ่านเงินสด และ Mobile Banking/QR PromptPay โดยมีการหาข้อมูลร้านนวดแผนไทยจากช่องทางอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก นอกจากนั้นปัจจัยด้านอายุ ด้านสถานภาพ ด้านระดับการศึกษา และด้านรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ที่แตกต่างกันส่งผลต่อความคุณภาพการบริการอย่างน้อย 1 ปัจจัยที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนปัจจัยด้านเพศ และอาชีพที่แตกต่างกันส่งผลต่อความคุณภาพการบริการที่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนด้านความบ่อยการใช้บริการ ด้านช่วงเวลาที่ใช้บริการ ด้านความถี่ในการใช้บริการ ด้านช่องทางการชำระเงิน และด้านแหล่งข้อมูลการตัดสินใจ ที่แตกต่างกันส่งผลต่อความคุณภาพการบริการอย่างน้อย 1 ปัจจัยที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนด้านบุคคลที่ใช้บริการด้วยกัน และด้านค่าใช้จ่ายในการนวด ที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อคุณภาพการบริการที่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ และด้านผลิตภัณฑ์ ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านการสนับสนุนการตลาด ด้านบุคลากร ด้านลักษณะกายภาพ และด้านกระบวนการ จึงสามารถกล่าวได้ว่าด้านผลิตภัณฑ์ ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านการสนับสนุนการตลาด ด้านบุคลากร ด้านลักษณะกายภาพ และด้านกระบวนการ ส่งผลต่อคุณภาพการบริการอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นยังพบว่าตัวแปรอิสระทั้ง 7 ตัว ไม่มีความสัมพันธ์กันเอง โดยสามารถนำสมการในการศึกษาครั้งนี้ไปอธิบายปรากฎการณ์ได้ร้อยละ 89.4

The study aimed to investigate the factors influencing customer satisfaction with the quality of Thai massage services in the Phaya Thai and Ratchathewi districts of Bangkok. The research adopted a quantitative approach, with a sample group comprising Thai massage service users in the Phaya Thai and Ratchathewi districts between the years 2015 and 2016. The study revealed that the majority of the sample group consisted of males aged 21-30, single, with a bachelor's degree, working in private companies, and having a monthly income of 15,001-25,000 Baht. Regarding service usage, most participants frequented Thai massage services alone, visited 2-3 times per month, during 16:00-18:00, and spent between 200-300 Baht per session. Payments were primarily made in cash or through Mobile Banking/QR PromptPay. Internet sources were the main channels for obtaining information about Thai massage establishments. Analyzing the data, age, marital status, education level, and monthly income were found to significantly impact service quality. However, gender and occupation did not show significant differences. Factors such as service frequency, service time, payment method, and decision-making information source also exhibited significant impacts on service quality. Concerning joint service users, cost differences and product-related factors, distribution channels, marketing support, personnel, physical characteristics, and processes were found to significantly influence service quality. Additionally, the study revealed that the seven independent variables were not interrelated, explaining 89.4% . In summary, the findings suggest that age, marital status, education level, monthly income, service usage patterns, and various service-related factors play crucial roles in influencing customer satisfaction with Thai massage services in the specified districts.