แผนธุรกิจร้านกาแฟแฟรงค์เกอร์เครื่องเสียงรถยนต์

Abstract

ในปัจจุบันความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนไป มีการจับจ่ายใช้สอยในด้านเครื่องดื่มสูงขึ้นส่งผลให้ธุรกิจร้านกาแฟเติบโตขึ้นและขยายตัวเพิ่มขึ้น หากพิจารณาการเพิ่มขึ้นของร้านกาแฟในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า เติบโตเฉลี่ยร้อยละ 6.2 กาแฟยังคงเป็น 1 ใน 3 ของเครื่องดื่มที่ผู้คนทั่วโลกนิยมดื่มมากที่สุดแต่ก็ยังเป็นธุรกิจที่ดึงดูดให้นักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าสู่ธุรกิจร้านกาแฟอย่างคึกคัก ส่งผลให้การแข่งขันในธุรกิจร้านกาแฟทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จึงเป็นเรื่องปกติที่เราจะเห็นร้านกาแฟใหม่ ๆ เปิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีอัตราการบริโภคกาแฟสดของคนไทยเฉลี่ย 300 แก้ว ต่อคนต่อปี ถึงแม้ว่าการแข่งขันจะรุนแรง แต่ในภาพรวมตลาดธุรกิจร้านกาแฟยังคงมีภาพรวมที่ดี ทำให้เล็งถึงโอกาสทางธุรกิจร้านกาแฟ ภายใต้ชื่อร้าน แฟรงเกอร์เครื่องเสียงรถยนต์ ที่มาพร้อมกับเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร และเป็นจุดเด่น ร้านกาแฟเครื่องเสียงรถยนต์ จะเน้นบรรยากาศและจำลองเครื่องเสียงไว้ในร้านกาแฟ เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจหรือชื่นชอบเสียงเพลงและอยากได้เครื่องเสียงดี ๆ สามารถมาทดสอบระบบหรือลองเสียงก่อนตัดสินใจซื้อได้ และหาความรู้ของจริงที่เป็นมากกว่าอ่านรีวิวตามเพจหรือฟังคนอื่น มาเปิดประสบการณ์และสัมผัสไปด้วยพร้อมกับนั่งจิบกาแฟไปด้วยเพื่อเป็นการพักผ่อน ผ่อนคลาย โดยจากการวิจัยตลาดด้วยวิธีการเก็บแบบสอบถามเชิงปริมาณ ผู้จัดทำได้แบ่งกลุ่มลูกค้าจากพฤติกรรมมาใช้บริการร้านเจพี ที่เป็นฐานลูกค้าหลัก ที่มีส่วนมาใช้บริการร้านกาแฟในอนาคต กลุ่มสองคือกลุ่มที่ต้องการพักผ่อน และใช้สถานที่ทำกิจกรรมพบปะ สังสรรค์กับคนรัก เพื่อน ครอบครัวหรือคนเดียว เมื่อพิจารณาความเป็นไปได้ของการลงทุนเพื่อจัดทำธุรกิจ พบว่า ใช้เงินลงทุน 2,500,000 บาท มูลค่าปัจจุบันสุทธิมีค่าเท่ากับ 1,733,768.02 บาท มีอัตราผลตอบแทนภายในที่ 51.4223% พบว่า โครงการนี้มีระยะคืนทุนที่ 1.28 ปี ดังนั้นสรุปไว้ว่าการดำเนินธุรกิจร้านกาแฟ แฟรงค์เกอร์เป็นโครงการที่สามารถสร้างผลตอบแทนในระดับที่ดี และมีความคุ้มค่าต่อการลงทุน

In the current days, consumers’ demands have changed. The spending on beverages has been increased, so the coffee shop business has been growing and expanding. To consider the increase of coffee shops over the past five years, it found that the average increase of 6.2% was still coffee as one of the top three beverages that people around the world drink the most. However, it is still a kind of business that attracts both Thai and foreign investors entering the coffee shop business. The competition in the coffee shop business has become more intense, and it is seen more frequently that new coffee shops have opened continuously and the rate of average yearly consumption of fresh coffee in Thailand is 300 cups per person. Although the competition is fierce, the overall marketing of the coffee shop business is still going well. For this reason, it showed the business opportunity in the coffee shop business named Franker Car Audio that comes with the unique identity and highlight of the car audio coffee shop. The shop focuses on the atmosphere and reproduces the car audio within the shop to attract the customers who like and are interested in music and want to have good car audio. They can test the system and sound before making the purchase decision and acquire real knowledge more than reading reviews from any online page and listening from others. It is to open their experiences while having a cup of coffee to relax and unwind. The marketing research was done by collecting quantitative questionnaires. The researcher divided the groups by customers’ behaviors into two groups: the first group used the service of the JP shop as the customer base involved in using the service of this coffee shop in the future. The second group was the customers who wanted to relax and used this shop as the meeting place and socialized with lovers, friends, families, or alone. To consider the possibility for investment in business planning, it pointed out that the investment was 2,500,000 baht, and the net present value (NPV) was 1,733,768.02 baht with the internal rate of return (IRR) at 51.4223%. It showed that the project has a payback period of 1.28 years. It can be concluded that running a Franker coffee business is a project that can generate a good level of return and is worth the investment.