แผนธุรกิจสเปรย์สารส้มกำจัดกลิ่นกาย

Abstract

การวิจัยแผนธุรกิสเปรย์ระงับกลิ่นกาย “Mun jai” มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาปัจจัยต่างๆที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการเลือกซื้อและการใช้ เพื่อทำการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทางธุรกิจทั้งภายในและภายนอกแผนกลยุทธ์ส่วนงานต่าง ๆ ภายใน และวิเคราะห์สถานการณ์ประมาณการรายรับและต้นทุนของธุรกิจวิเคราะห์และประเมินแนวโน้มสถานการณ์ทางการตลาด ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 150 ชุด โดยข้อมูลที่ได้จากการวิจัยประกอบกับแผนธุรกิจที่จัดทำขึ้น โดยผู้วิจัยได้ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลตามขั้นตอนจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 150 คน ผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนมากเป็นเพศหญิง อายุอยู่ที่ 31-40 ปี ที่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป และมีรายได้อยู่ที่ 30,001-40,000 บาท นิยมซื้อสินค้าจากห้างสรรพสินค้าสูงที่สุด ได้รับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ จากช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นหลัก นิยมใช้ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของดรายสเปย์รองลงมา คือ ในรูปแบบน้ำ ที่มีความสดชื่น โดยปัญหาที่พบมากในการใช้ผลิตภัณฑ์ก็ คือ การมีกลิ่นที่ไม่ติดทนนาน เสื้อผ้าเหลืองเป็นคราบ มีพฤติกรรมการใช้ผลิตภัณฑ์ คือ นิยมใช้ก่อนออกจากบ้านต้องไม่เปื้อนเสื้อผ้าเป็นคราบ แห้งเร็ว ไม่ก่อให้เกิดการแพ้และอ่อนโยนต่อผิว บทสรุปของผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายไม่พึงประสงค์ “Mun Jai” ใช้เงินในการลงทุน 225,000 บาท จุดคุ้มทุนทางการจัดจำหน่ายค้า อยู่ที่ 3,261 หากเริ่มจำหน่ายในเดือนมกราคม จะคุ้มทุนประมาณกลางเดือนกันยายนหรือใช้เวลาประมาณ 9 เดือน

This research on ‘MUNJAI Multipurpose Body Deodorant’ was aimed at examining all factors influencing consumer behaviour tendencies to analyze internal as well as external business environment, business strategies, situation assessment including solutions to imminent problems, cost and revenue estimations, to evaluate the marketing trends in the near future. Our products were researched and developed by a sample of 150 cases. The examination showed that the majority respondents from our 150 surveys were female aged between 31-40 years old, working as employees with the income of 30,001-40,000THB and tended to purchase goods from department and/or convenience stores. Consumers’ buying behaviours were mainly influenced by social media marketing platforms. The most popular products were dry spray deodorants and water-based deodorants respectively. Ones with refreshing scent were relatively in demand than ones with cooling scents. Most common problems found in using deodorant products was its short-lived fragrance and also yellowish stains. Most consumers tended to apply body spray products before leaving their places. The factors that significantly affected consumer behaviour were stain-free, quick-drying, allergy-free and gentle to skin. ‘Munjai Multipurpose Deodorant Spray’ is worth of 225,000 THB investment. The break-even point is at 3,261 bottles. Should the products be launched in January, the business breaks even in mid-September which is approximately 9 months since its first release.