การเปิดรับสื่อโฆษณาที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ Honda Jazz

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะประชากรที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ Honda Jazz และเพื่อศึกษาของการเปิดรับสื่อโฆษณาที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ Honda Jazz ของประชากร Gen Y ที่อาศัยในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ จำนวน 440 คน สถิติที่ใช้สำหรับข้อมูลเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ความถี่ ร้อยละ และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติที่ใช้สำหรับข้อมูลเชิงอ้างอิงเพื่อทดสอบสมมติฐาน ใช้แบบทดสอบ ค่า (t–test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA) ผลการศึกษาพบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 30–34 ปี สถานภาพเป็นโสด จบการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า มีอาชีพพนักงานเอกชนเป็นส่วนใหญ่ และมีรายได้เฉลี่ย ต่อเดือน 25,001–35,000 บาท ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า เพศ อายุ สถานภาพ ระดับ การศึกษา อาชีพ และรายได้เฉลี่ยต่อเดือนที่แตกต่างกัน มีการเปิดรับสื่อโฆษณาที่แตกต่างกัน อย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และการเปิดรับสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ สื่อออนไลน์ และสื่อกลางแจ้ง ที่แตกต่างกัน มีผลต่อการตัดสินใจซื้อที่ไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับมากกว่า 0.05

The purposes of this research were to study the effect of demographic profile decision making on buying Honda Jazz and to study the effect of media exposure on the decision making on purchasing the car among Generation Y population living in Bangkok and the metropolitan area. The questionnaires were distributed to 440 sample. The statistics used for descriptive and inferential analysis was average, frequency, percentage, standard deviation, t–test, and One–way ANOVA. The study revealed that the majority of the samples were female, aged between 30–34 years, and were single. Most of them had a bachelor's degree or equivalent and being an employee. Besides, They had an average monthly income of 25,001–35,000 baht. The hypothesis testing found that media exposure to Honda Jazz advertisements was varied differently due to different genders, ages, marital statuses, education levels, occupations, and average monthly incomes at a statistical significance level of 0.05. Also there were no differences between exposure to print media, television media, online media and outdoor media and the purchase decision a with statistical significance level was greater than 0.05.