แผนธุรกิจวุ้นเส้น “ตราท่าเรือ”

Abstract

แผนธุรกิจได้จัดทำขึ้นสำหรับธุรกิจวุ้นเส้น ตราท่าเรือ โดยเป็นการต่อยอดและพัฒนามาจาก โรงงานวุ้นเส้นท่าเรือเพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเทคนิคและวิธีการจัดทำแผน คือการวิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจ การวิเคราะห์การแข่งขัน และการสัมภาษณ์เชิงลึกโดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบสะดวก ผลการวิเคราะห์จากปัจจัยแวดล้อมภายในจุดแข็ง คือสินค้ามีคุณภาพผลิตมาจากถั่วเขียว 100% และไม่ใช้สารเคมีในกระบวนการผลิตจุดอ่อน คือวุ้นเส้น ตราท่าเรือ ยังไม่เป็นที่รู้จักมากพอ ทำให้ส่งผลกระทบต่อยอดขายผลการวิเคราะห์จากปัจจัยภายนอกพบว่าโอกาส คือผู้บริโภคหันมาใส่ ใจสุขภาพกันมากขึ้นทำให้วุ้นเส้น ตราท่าเรือ ตอบโจทย์ตรงจุดนี้เพราะแป้งที่ทำมาจากถั่วเขียวนั้นให้ พลังงานต่ำอุปสรรค คือเพราะถั่วเขียวมีการปรับราคาขึ้นทุกๆ ปีทำให้ต้นทุนของวัตถุดิบมีราคาสูง ส่งผลไปถึงราคาขายที่สูงตาม สภาพการแข่งขันของธุรกิจนี้ ระดับของการแข่งขันถือว่าอยู่ในระดับสูง เพราะท้องตลาดมี วุ้นเส้นหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายคุณภาพทั้งผลิตจากถั่วเขียว 100% หรือการผลิตที่ผสมแป้งมัน สำปะหลัง ข้อได้เปรียบคู่แข่งขัน คือวุ้นเส้น ตราท่าเรือ ผลิตจากถั่วเขียว 100% ซึ่งหากพูดถึงตลาด ในอุตสาหกรรมเดียวกันมีน้อยมากเพราะคู่แข่งส่วนใหญ่ในท้องตลาดจะเป็นวุ้นเส้นที่ผสมแป้งมันสำปะหลัง กลยุทธ์ที่สำคัญในการทำธุรกิจ คือกลยุทธ์ด้านการขาย คือเพิ่มขยายตลาด และเพิ่มทาง เลือกให้กับกลุ่มลูกค้า และกลยุทธ์การจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย การวิเคราะห์งบประมาณการลงทุนธุรกิจวุ้นเส้น ตราท่าเรือ มีความน่าลงทุนพบได้จาก ในการวิเคราะห์นี้ % IRR อยู่ที่ 95% มูลค่าปัจจุบันสุทธิ NPV อยู่ที่ 8,857,220.57 บาท ธุรกิจนี้มีระยะเวลา 1.012 ปี หรือ 1 ปี 1 เดือน (โดยประมาณ)

This business plan was written for the “Tar Ruea” vermicelli business which expanded and developed from Tar Ruea vermicelli factory, aiming to expand distribution channels.Techniques and methods of this business plan were the business environmental factors analysis, the competitive analysis and the in-depth interview, using the a convenience sampling. The result of the internal environmental factors analysis pointed out that the strengths were the quality of the product which made from 100% mung bean and there was no chemicals or substances used in the production process. However, the weakness was the Tha Ruea vermicelli was not very well-known to the market, which affected the sales of the product. The external factors analysis indicated that a health conscious trend was more popular among consumers and the Tha Ruea vermicelli was made from mung bean, offering low energy content which met the needs of health conscious consumers. The threat was the price of mung bean increases every year, as a result, the raw material cost raises. Eventually the retail price increases. The competitive level of this business was high because in the market there were many vermicelli brands and different quality, made from 100 % mung bean or mixed with tapioca starch. The advantage of the Tha Ruea vermicelli was 100 % mung bean made which was rare in the market because most competitors was not 100 % mung bean made but they mixed with tapioca starch. The key strategy of this business was sale strategythat was to expand its market and add more choices for customers, as well as, promotion strategy. The capital budget analysis of the Tha Ruea vermicelli business found out that this business was investment attractiveness. The internal rate of return (IRR) of this business was at 95% and the net present value (NPV) is 8,857,220.57 baht. This business was 1.012 year old or 1 years 1 month old (approximately).