DSpace at Bangkok University >
Graduate School >
Master Degree >
Theses >
Please use this identifier to cite or link to this item:
http://dspace.bu.ac.th/jspui/handle/123456789/4056
|
Title: | การสื่อสารเชิงสร้างสรรค์เพื่อสร้างอัตลักษณ์ส่วนบุคคลผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ |
Other Titles: | Creative Communication for Creating Personal Identity via Facebook Fanpage |
Authors: | นาวิน เพิ่มประยูร |
Keywords: | เฟซบุ๊กแฟนเพจ การสื่อสารเชิงสร้างสรรค์ สร้างอัตลักษณ์ส่วนบุคคล |
Issue Date: | 2562 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยกรุงเทพ |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยสำคัญในการสื่อสารเชิงสร้างสรรค์เพื่อสร้าง
อัตลักษณ์ส่วนบุคคลผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจของกรณีศึกษา เพื่อศึกษาองค์ประกอบของกระบวนการสื่อสารรวมทั้งกลยุทธ์และกลวิธีของกรณีศึกษา และเพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรค์ในการดำเนินงานการสื่อสารเชิงสร้างสรรค์เพื่อสร้างอัตลักษณ์ส่วนบุคคลผ่านเฟซบุ๊ก โดยผู้วิจัยใช้วิธีการคัดเลือกกรณีศึกษาแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sample) โดยมีเกณฑ์การคัดเลือกที่อ้างอิงรูปแบบมาจากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องทำให้ได้แฟนเพจจากเฟซบุ๊กที่ตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ได้แก่ เพจ Lowcostcosplay เพจบันทึกของตุ๊ด และเพจ Bie The Ska งานวิจัยครั้งเป็นรูปแบบงานวิจัยเชิงคุณภาพโดยผู้วิจัยเลือกใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสาร (Document Analysis) การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) การสังเกตแบบมีส่วนร่วม (Participant Observation) การสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม (Non Participant Observation) และการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-depth interview) โดยใช้การหาค่าความน่าเชื่อถือ (Reliability) และความแม่นยำถูกต้อง (Validity) ด้วยการเปรียบเทียบเอกสารที่เกี่ยวข้องที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก และให้ทั้งสามเพจเป็นผู้ตรวจสอบประเมินการวิเคราะห์ด้วย Content Analysis
ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยสำคัญในการสื่อสารเชิงสร้างสรรค์เพื่อสร้างอัตลักษณ์ส่วนบุคคลผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจของกรณีศึกษาคือ ปัจจัยด้านอัตลักษณ์ เพจ Lowcostcosplay การเติบโตมากับครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์และวัฒนธรรมคอสเพลย์ญี่ปุ่นมีผลต่ออัตลักษณ์ความเป็นตัวตนของคุณอนุชาเจ้าของเพจ นำไปสู่การพัฒนาเป็นกระบวนการความคิดสร้างสรรค์ในแบบการแสดงออกด้วยการ คอสเพลย์และการสื่อสารตามวัฒนธรรมสื่อญี่ปุ่นที่ตนชื่นชอบในวัยเด็ก เพจบันทึกของตุ๊ด การมีเพศสภาพเป็นเพศที่สาม และการเติบโตมาในครอบครัวที่มีวัฒนธรรมจีนทำให้เกิดแรงกดดันและมีผลต่อ
อัตลักษณ์ของคุณช่าเจ้าของเพจ นำไปสู่แรงจูงใจในการสร้างสรรค์และความต้องการเป็นที่ยอมรับแก่ครอบครัวและสังคม เพจ Bie The Ska ชาติพันธุ์ ถิ่นกำเนิด และลักษณะทางกายภาพมีผลต่อพฤติกรรมการแสดงออกของคุณบี้เจ้าของเพจ การเลี้ยงดูที่ให้อิสระ การต้องการเป็นจุดเด่น มีผลต่อการแสดงอัตลักษณ์ส่วนบุคคลในด้านการสร้างเสียงหัวเราะและความสนุกให้ออกมาในรูปแบบเนื้อหาล้อเลียนต่าง ๆ ผลการวิจัยด้านองค์ประกอบของกระบวนการสื่อสาร รวมทั้งกลยุทธ์และกลวิธีของกรณีศึกษา พบว่า ปัจจัยด้านการสื่อสาร เพจ Lowcostcosplay มีผลโดยตรงจากวัฒนธรรมการ์ตูนญี่ปุ่นในวัยเด็กโดยเฉพาะการคอสเพลย์ ส่งผลต่อรูปแบบการสื่อสารจนถึงปัจจุบัน โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มที่มีรสนิยมชื่นชอบวัฒนธรรมคอสเพลย์เช่นเดียวกับเจ้าของเพจ สำหรับเพจบันทึกของตุ๊ด ประเด็นเรื่องการเป็นเพศที่สามส่งผลต่อพฤติกรรมการสื่อสารของคุณช่าเจ้าของเพจโดยตรง และสื่อสารออกมาผ่านภาษาเขียนที่เป็นลักษณะในแบบภาษาเพศที่สามคุยกัน กลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มเพศที่สามและกลุ่มผู้หญิง และเพจ Bie The Ska เรื่องชาติพันธุ์และบุคลิกหน้าตาส่งผลต่อการสื่อสารหลักของพฤติกรรมเจ้าของเพจ ความเป็นคนอีสานส่งผลต่อการสื่อสารออกมาทางบุคลิกภาพ ภาษา วัฒนธรรมการใช้ชีวิต กลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มคนต่างจังหวัดและคนที่ชอบการชมเนื้อหาที่สนุกเข้าถึงง่ายแบบเป็นกันเอง และด้านปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานการสื่อสารเชิงสร้างสรรค์เพื่อสร้างอัตลักษณ์ส่วนบุคคลผ่านเฟซบุ๊ก พบว่า ทั้งสามกรณีศึกษาได้รับการตอบรับจากการสื่อสารของตนในเชิงบวกเป็นหลักส่งผลให้เวลาที่มีปัญหาในการสื่อสารที่ผิดพลาดเกิดขึ้นจึงไม่มีผลกระทบต่อเพจทั้งสามมากนัก และได้รับการยอมรับจากสังคมทั้งสื่อสังคมออนไลน์ และสื่อสังคมออฟไลน์ผ่านหลักฐานความสำเร็จ ทั้งการวัดผลจากการเติบโตของแฟนเพจที่มีคนติดตามมากขึ้น การได้รับชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก และการได้ร่วมงานกับแบรนด์ดังต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ย้อนกลับมาตอบในเรื่องนิยามความคิดสร้างสรรค์คือสิ่งที่ทำออกมาแล้วให้ผลดีในเชิงบวก ทำให้การวิจัยครั้งนี้เป็นไปตามสมมุติฐานทั้งในเรื่อง อัตลักษณ์ที่มีผลต่อการสื่อสาร และความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่ให้การสื่อสารออกมาเป็นเชิงบวกและส่งผลดีต่อทั้งผู้สร้างสรรค์และกลุ่มเป้าหมายทางสังคมรอบข้าง The objective of this research is to 1) study the important related factors in a creative communication which is to create a personal identity on the Facebook page of the case study 2) To study the components of the communication, the strategies, and the approaches of the case study. To study problems and obstacles during the execution process to create a personal identity on Facebook. The researcher used the purposive sample in which the selection criteria is based on the related research documents which result in increasing of the fans base from Facebook accordingly to the defined condition. 1) Lowcostcosplay 2) Tud’s diary 3) Bie The Ska. This research is qualitative research which the researcher chose to gather and collect the data and analyze in which the document analysis, the content analysis, the participated and non-participated observation have been made during the data gathering process. The in-depth interview was done by calculating the reliability and validity of the data. These two variables were calculated by 3 methods which is 1) Compare the related document that made its appearance on Facebook social media 2) Requesting the 3 case studies of the 3 mentioned Facebook pages to participate and evaluate and 3) Implementation of the content analysis.
The result of the study has shown that 1) the important factor in creative communication to create personal identities via the fan page Facebook of the case study is the identity-related factor. Lowcostcosplay page which has grown with the incomplete family and the Japanese style cosplay which result is the identity of Anucha, who is the page owner. Which led to the creative development in the expression via cosplaying and communicating based on the Japanese culture which is the personal he likes since his childhood. The page Tud’s diary related to the alternative gender and growing up in the Chinese family which has pressure and affected the identity of Sa, who is the page owner. This led to the motivation of being accepted by the family and society. Bie The Ska page reflected the race, the geographic background and the physical appearance that affected the behavior and the expression of Bie who is the page owner. The family that raised him with freedom, his need to be attention, all of these influenced the personal identity expression in creating the entertainment and laughs which comes from the content that mocking the various things that occur in the society. 2) The components of the communication process including the strategies and the methods of the case study have found that the communication-related factors of Lowcostcosplay page are influenced directly by the Japanese manga culture especially the cosplaying which affects the communication directly to this moment. The target group is the group that has a similar taste in cosplay as the page owner. Tud’s Diary page which is the page with the being born as an alternative gender which affects the communication behavior of “Sha”, the page owner. This has been communicated in form of writing that is unique for the LGBT people talk between each other which the target group of the page is the alternative people and the women. Bie The Ska page which involved with the background of race, personality and the physical appearance which affect the communication behavior of the page owner. Being an Isan born person which affects directly to the communication which can be seen via the personality, language and lifestyle. The target group of the page is those who live outside the city and those who prefer the entertaining and funny content which is easy to consume and easy to understand 3) the problem and the obstacle of creative communication to develop the personality on Facebook have found that all of the 3 case studies have gained a positive reception which when there are problems in miscommunication, it will not significantly affect these 3 pages and it keeps gaining acceptation from the online social mediaand the offline social media.
This can be seen via the evidence of the successfulness in the growing of the fan base of the page which there are more followers. Being widely known and gaining a chance to work with the well-known brand are also the example of the success as well. The result of the reception has answered the definition of the creativity of the things that they have done which gained the positive feedback. This research result is consistent with the research assumption in term of the identities that affects the communication, the conceptual thinking and the creativity which has turned into a positive communication and positively influenced both for the content owner and the target groups of the society. |
Description: | วิทยานิพนธ์. (นศ.ม.)--สาขาวิชาการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, 2562 |
Subjects: | สื่อสังคมออนไลน์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ การสื่อสาร เครือข่ายสารสนเทศ ระบบสื่อสารข้อมูล |
Advisor(s): | พีรยา หาญพงศ์พันธุ์ สุธีรพันธุ์ สักรวัตร |
URI: | http://dspace.bu.ac.th/jspui/handle/123456789/4056 |
Appears in Collections: | Theses
|
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.
|