การศึกษาการดำเนินงานและภาพลักษณ์ของกรมสรรพสามิต

Abstract

การศึกษาเรื่อง “การดำเนินงานและภาพลักษณ์ของกรมสรรพสามิต” มีวัตถุประสงค์ 4 ข้อ คือ 1) เพื่อศึกษาภาพลักษณ์การดำเนินงานด้านบทบาทและภาระหน้าที่ของกรมสรรพสามิต 2) เพื่อศึกษาภาพลักษณ์การดำเนินงานด้านการให้บริการของกรมสรรพสามิต 3) เพื่อศึกษาภาพลักษณ์การดำเนินงานด้านกิจกรรมสาธารณกุศลของกรมสรรพสามิต 4) เพื่อศึกษาลักษณะทางประชากรศาสตร์กับภาพลักษณ์ของกรมสรรพสามิต กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา คือ ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร ที่มีอายุ 25-45 ปี ทั้งเพศชายและเพศหญิง จำนวน 400 คน ซึ่งใช้วิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multistage Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบสอบถาม และทำการวิเคราะห์ผลการศึกษาโดยใช้วิธีทางสถิติ ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วยการใช้ T-test, F-test และการเปรียบเทียบเชิงซ้อน (Multiple Comparison) โดยใช้วิธีทดสอบแบบ LSD จากผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 25-35 ปี มีการศึกษาอยู่ใน ระดับปริญญาตรีมากที่สุด โดยมีรายได้ส่วนบุคคลต่อเดือน อยู่ในช่วง 10,001-20,000 บาท และมี อาชีพพนักงาน/ลูกจ้างบริษัทเอกชนผลการศึกษา พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความคิดเห็นต่อการดำเนินงานของกรมสรรพสามิตในระดับเห็นด้วย และตัวแปรด้านบทบาทและภาระหน้าที่ของกรมสรรพสามิตมีค่าผลรวมสูงสุด รองลงมาคือ ตัวแปรด้านการให้บริการของกรมสรรพสามิต และตัวแปรด้าน กิจกรรมสาธารณกุศลของกรมสรรพสามิต ตามลำดับ ประชาชนส่วนใหญ่มีความคิดเห็นต่อภาพลักษณ์ของ กรมสรรพสามิตในระดับเห็นด้วย โดยตัวแปรด้านภาพลักษณ์ของสินค้าและบริการมีค่าผลรวมสูงสุด รองลงมาคือภาพลักษณ์ของผู้บริหาร ภาพลักษณ์ของวิธีการดำเนินงาน กับภาพลักษณ์ของเครื่องมือเครื่องใช้ หรืออุปกรณ์ในสำนักงาน ภาพลักษณ์ของพนักงาน ภาพลักษณ์ทางด้านสังคม ภาพลักษณ์ของวัฒนธรรมองค์กร และภาพลักษณ์ของบรรยากาศองค์กร ตามลำดับ ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า 1) ไม่ยอมรับสมมติฐาน ที่ว่า ภาพลักษณ์การดำเนินงาน ด้านบทบาทและภาระหน้าที่ของกรมสรรพสามิตอยู่ในระดับปานกลาง 2) ยอมรับสมมติฐาน ที่ว่า ภาพลักษณ์การดำเนินงานด้านการให้บริการของกรมสรรพสามิตอยู่ในระดับปานกลาง 3) ยอมรับ สมมติฐาน ที่ว่า ภาพลักษณ์การดำเนินงานด้านกิจกรรมสาธารณกุศลของกรมสรรพสามิตอยู่ใน ระดับปานกลาง 4) ยอมรับสมมติฐาน ที่ว่า ลักษณะทางประชากรศาสตร์ด้านเพศ อายุ อาชีพ ที่แตกต่างทำให้ภาพลักษณ์ต่อกรมสรรพสามิตแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05