การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการสื่อสารภาษาถิ่นในเพลงไทยลูกทุ่งอินดี้ กับพฤติกรรมการเปิดรับการสื่อสารภาษาถิ่นของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร

Abstract

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาคุณภาพการผลิตเพลงไทยลูกทุ่งอินดี้ที่ใช้ภาษาถิ่นของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อศึกษาช่องทางการเผยแพร่เพลงไทยลูกทุ่งอินดี้ที่ใช้ภาษาถิ่นของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร และเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพเพลงไทยลูกทุ่งอินดี้กับพฤติกรรมการเปิดรับการสื่อสารภาษาถิ่นของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครงานวิจัยนี้ เป็นงานวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล กำหนดขนาดตัวอย่างโดยใช้ G*Power ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 138 คน เก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถามผ่านช่องทางออนไลน์โดยใช้วิธีสุ่มตามสะดวก (Convenient Sampling) และคัดกรองผู้ที่เคยฟังเพลงลูกทุ่งอินดี้ ทำการเก็บข้อมูลช่วงเดือน มิถุนายน-กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ทดสอบความเที่ยงตรงของเนื้อหาและความน่าเชื่อถือของเครื่องมือด้วยสัมประสิทธิ์ครอนแบ็ช แอลฟา (Cronbach’s Alpha-Coefficient) ได้ค่าความเชื่อมั่น .920, .907 และ .963 สถิติที่ใช้วิจัยคือ สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ การวิเคราะห์ค่าแปรปรวนทางเดียว และสถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน ผลการทดสอบพบว่า ลักษณะทางด้านประชากรที่แตกต่างกันไม่ส่งผลต่อพฤติกรรมการเปิดรับการสื่อสารภาษาถิ่นในเพลงไทยลูกทุ่งอินดี้ คุณภาพการผลิตเพลงไทยลูกทุ่งอินดี้ที่ใช้ภาษาถิ่น มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเปิดรับการสื่อสารภาษาถิ่นในเพลงไทยลูกทุ่งอินดี้และช่องทางการเผยแพร่เพลงไทยลูกทุ่งอินดี้ที่ใช้ภาษาถิ่นมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเปิดรับการสื่อสารภาษาถิ่นในเพลงไทยลูกทุ่งอินดี้ของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร และผลวิเคราะห์ระดับการเปิดรับการสื่อสารภาษาถิ่นในเพลงไทยลูกทุ่งอินดี้ มีการเปิดรับการสื่อสารอยู่ในระดับมาก

The objective of this study is to examine the level of quality of Thai indie country music that uses regional dialect, to comprehend the distribution system that provides access to such music genre and to comprehend Bangkok residents' attitudes toward such genre. This study is a compilation of data that was acquired online from a convenient sampling group of 138 people who listened to Thai indie country music utilizing G*Power calculation during June–July, 2022. Cronbach's Alpha-Coefficient, which has a confidence level of .920 .907 and .963, is used to evaluate the content's accuracy and dependability. The statistical method utilized is known as "descriptive statistics," and it includes frequency, percentage, average, and standard deviation, along with inferential statistics such as One-way ANOVA analysis and Pearson’s correlation coefficient statistics. From the study we have founded that Thai indie country music despite their demographical difference; there is no obvious connection between their attitudes toward regional Thai indie music. The content quality of regional Thai indie music has a significant impact on the audiences’ perception. In addition, the perception of the audiences and the distribution method for Thai indie music are directly related. Furthermore, according to the study, audiences have a very positive perception of Thai indie country music.