แผนธุรกิจโครงการแตงโมปลอดสาร

Abstract

การจัดทาแผนธุรกิจฉบับนี้มีวัตถุประสงค์คือ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการแตงโม ปลอดสาร โดยมีเทคนิคการจัดทาแผนการตลาดโดยศึกษากลยุทธ์ต่างๆ เป็นการทาธุรกิจแตกยอด จากธุรกิจเดิม พัฒนามูลค่าของธุรกิจให้ดีขึ้น มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของ ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ผลการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมธุรกิจพบว่า จุดแข็งคือ ความโดดเด่นของตัวสินค้ามีคุณภาพ ที่ดีกว่าคู่แข่ง และมีช่องทางการจัดจาหน่ายที่เข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง จุดอ่อนคือ สินค้าเป็นสินค้า ใหม่ ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่เข้าใจในความแตกต่างของสินค้า และราคาที่สูงกว่าสินค้าปกติทั่วไป โอกาส คือ สินค้ามีโอกาสเติบโตเนื่องจากเป็นสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน และ ทางองค์กรมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าเป็นเวลานาน ทาให้ง่ายต่อการทาการตลาด และอุปสรรคคือ ความเข้าใจของผู้บริโภคเกี่ยวกับสินค้าปลอดสาร และการสื่อสารถึงผู้บริโภคเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจถึง ความหมายของสินค้าปลอดสาร เมื่อวิเคราะห์การแข่งขันพบว่า สินค้าเป็นสินค้าที่แตกต่างจากคู่แข่ง เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีคุณภาพมากกว่า มีส่วนแบ่งการตลาดที่มากในตลาดผลไม้ในประเทศไทย สาหรับผลการวิจัยการตลาด พบว่า กลุ่มผู้บริโภคที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้าปลอดสาร ต้องการซื้อสินค้าปลอดสาร และยินยอมที่จะจ่ายในราคาที่มากกว่า กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมีความ ต้องการที่จะปลูกแตงโมปลอดสาร เนื่องจากได้รายได้ที่ดีกว่าและเป็นการพัฒนาคุณภาพสินค้าของตน กลุ่มพ่อค้าคนกลางมีความต้องการที่จะขายสินค้าปลอดสาร เพราะเป็นการต่อยอดธุรกิจและขยาย ตลาดสินค้าปลอดสารในไทยให้ใหญ่ขึ้น จากผลการวิเคราะห์ ธุรกิจได้กาหนดกลยุทธ์การเข้าถึงลูกค้าซึ่งเป็นกลยุทธ์เชิงรุก เป็น การเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อดีของสินค้าปลอดสาร และเพื่อให้ ผู้บริโภคเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างสินค้าปกติกับสินค้าปลอดสาร โดยกลยุทธ์นี้จะใช้สื่อ Social Media ต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภค และกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและผลักดันสินค้าให้เข้าถึง ผู้บริโภค กลยุทธ์นี้เป็นการใช้บุคลากรในองค์กรให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้บริโภคที่จุดขายสินค้า เพื่อให้สินค้าขององค์กรเป็นที่รู้จัก และผลักดันยอดขายของสินค้า โครงการนี้ใช้เงินลงทุนเท่ากับ 885,000 บาท โดยมีมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) เท่ากับ 2,178,637 บาท อัตราผลตอบแทนภายใน โครงการ (IRR) เท่ากับ 145% และระยะเวลาคืนทุน (ปี) คือ 0.649

The objective of this business plan is to study the possibility of a project on organic watermelons. Techniques used in this business plan are gathered from the studying of various strategies with an aim to create a new business opportunity from an existing business and to add values to the new business with a better–quality product to answer consumers’ current demands. After conducting a SWOT Analysis, it has been found that the Strengths are the uniqueness of the product, quality that is better than competitors’, and distribution channels that reach directly to the consumers. The Weaknesses are the consumers’ lack of understanding of the new product and the high price. The Opportunities consist of the possibility of product growth since it answers demands of present-day consumers and an easy market penetration due to acontinuously good relationship between the organization and its partners. The Threats are the consumers’ lack of understanding of organic products and communicating with the consumers to send across a message as to what organic products are. A competition analysis reveals that this product is different from the competitors’ products because it has a higher quality and also has a large market share in Thailand’s fruits market. From a market research, it has been found that the consumers who are knowledgeable about organic products want to buy them and are willing to pay more. In the meantime, farmers would like to produce organic watermelons because in doing so, it generates better incomes and improves the quality of their products, while middlemen want to sell organic products because it increases their business opportunities and expands the market of organic products in Thailand. From a business analysis, SO Strategies (Strengths-Opportunities) have been set as a consumer–approach strategy. It creates access for consumers to be informed on the pros and cons of organic products and will help them to understand the difference between normal and organic products. This strategy will use various Social Media channels to approach consumers. It will also use a promotion strategy to expose the product to the consumers. The latter strategy will use personnel within the organisation to inform consumers at points of sale to promote the product and to push sales volume. This project will need an investment fund of 885,000 baht, with the Net Present Value (NPV) of 2,178,637 baht, the Internal Rate of Return (IRR) at 145%, and a Pay Back Period of 0.649 (year).