แผนธุรกิจวิโบ เว็บไซต์ ซื้อ-ขายคืนบัตรเข้าชมการแสดง

Abstract

การจัดทำแผนธุรกิจฉบับนี้ขึ้นมาเพื่อมีวัตถุประสงค์คือ เพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานของธุรกิจนี้ และเพื่อเป็นแนวทางให้กับเจ้าของ เทคนิคและวิธีในการจัดทำแผนคือการวิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจ การวิเคราะห์การแข่งขัน และการวิจัยตลาด โดยใช้แบบสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ที่มีความชื่นชอบในการเข้าชมการแสดงโชว์ต่างๆ และผู้ที่ชื่นชอบการซื้อของออนไลน์ จำนวน 24 คน ผลการวิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อมภายในพบว่า จุดแข็งคือ ความปลอดภัย ราคาไม่แพง ได้จัดทำกลยุทธ์กับ Supplier ที่สำคัญ คือGrab และ Website ใช้งานง่าย จุดอ่อน คือมีประสบการณ์น้อยในธุรกิจนี้ ไม่ค่อยมีฐานลูกค้ามากในช่วงแรก และเว็บอาจล่มได้บางครั้ง ส่วนอุปสรรค์คือมีคนบางกลุ่มยังกลัวการซื้อของผ่าน ออนไลน์ และอาจมีคู่แข่งเกิดขึ้นภายหลังได้ ผลการวิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อมภายนอกพบว่าโอกาสของธุรกิจคือ เศรษฐกิจไทยในปี2560 จะขยายตัว 3.2 ซึ่งจะสามารถทำกำไรได้มากขึ้น กระแสการไปงานแสดงโชว์ต่างๆได้รับความนิยมมากในสมัยนี้ ผู้บริโภคส่วนมากกลัวโดนย้อมแมว และความไม่ปลอดภัยในการซื้อบัตร การวิเคราะห์การแข่งขันพบว่าทางตรงทั้งสี่เว็บไซต์ มีการขายสินค้าบนเว็บไซต์ออนไลน์ ในส่วนคู่แข่งทางอ้อมก็ขายบัตรการเข้าชมงานเช่นกัน แต่เป็นบัตรที่มีผู้ค้าปลีกนำมาขายตามถนนและหน้างานแสดงคอนเสิร์ต สรุปผลการวิจัย ชุดที่1 จากผู้ที่ให้สัมภาษณ์ 20 คน มีทั้งที่กำลังศึกษาอยู่ปริญญาตรีละจบการศึกษาแล้ว มีความถี่ในการซื้อของออนไลน์ ประมาน 1-2 ครั้งต่อเดือน ประเภทของที่ซื้อส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องสำอาง กระเป๋า เสื้อผ้า อุปกรณ์IT บัตรคอนเสิร์ต และสินค้าแฟชั่นต่างๆ ค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งประมาน 500-3000บาท มีความพอใจจากการบริการจากผู้ขายสินค้าออนไลน์อยู่ในระดับปานกลาง 9 คน อีก 10คนให้ข้อมูลว่าการบริการจากผู้ขายสินค้าออนไลน์อยู่ในระดับดี และ 1คนบอกว่าบริการจากผู้ขายสินค้าออนไลน์อยู่ในระดับดีมาก ส่วนอุปสรรค์ในการซื้อของออนไลน์พบว่ามีหลากหลาย เช่น เสียค่าจัดส่ง เห็นสินค้าไม่ชัดเจน ได้ของช้า การให้บริการของผู้ขายในการตอบคำถามช้า สินค้าไม่เหมือนในรูป และ ไม่สามารถตรวจสอบสินค้าก่อนซื้อได้ เป็นต้น ความคิดเห็นในการใช้บริการซื้อของผ่านทางสื่อออนไลน์ มี3 คนคิดว่าการใช้บริการซื้อของผ่านทางสื่อออนไลน์นั้นยุ่งยาก และส่วนใหญ่อีก 17 คนมีความสะดวกสบาย ความถี่ในการเข้าร่วมงานแสดงคอนเสิร์ต และ Eventต่างๆ มี 9คน ไม้ได้เข้าร่วมงานแสดงคอนเสิร์ตเลยตลอด 1 เดือน 5คน เข้าร่วม 1-2 ครั้งต่อเดือน 2คนเข้าร่วม 3-6 ครั้งต่อเดือน 3คน เข้าร่วม 6-12 ครั้งต่อเดือน และ อื่นๆอีก1คนไปคอนเสิร์ตแค่ปีละครั้งเท่านั้น สื่อที่ติดตามข่าวสาร ส่วนมากจะเป็นจาก Facebook มีทั้งหมด 17 คน จาก Twitter 4 คน จาก Instagram 11 คน จาก TV 7 คน วิทยุ มี 2 คน จากข่าวมี 4คน หนังสือพิมพ์ 1คน และ จากป้ายโฆษณา 5คน ราคาบัตรที่ซื้อจะอยู่ประมาน 500-3500 บาท สรุปผลการวิจัยชุดที่2 ผู้ให้สัมภาษณ์ทั้ง4 คน ซึ่งมาจากประเทศ อังกฤษ อเมริกา อิหร่านและเปรู มี 3คนเคยเข้าร่วมคอนเสิร์ต และMusic festivalsที่ประเทศไทย และอีก1 คนไม่เคยเข้าร่วม ซึ่งคนที่เคยเข้าร่วมคอนเสิร์ต และMusic festivals รับรู้ข่าวสารการจัดงานจาก เพื่อนที่อยู่ในประเทศไทย Festival Website และ Facebook โดยคนที่ไม่เคยเข้าร่วมคอนเสิร์ต และMusic festivalsก็รับรู้ว่ามีการจัดแสดงงานนี้อยู่ซึ่งเห็นข่าวผ่านทาง Social media และป้ายโฆษณาตามร้านอาหารที่ทองหล่อ โดยได้ทำการสอบถามผู้ที่เคยเข้าร่วมคอนเสิร์ต และMusic festivals ว่าได้ซื่อบัตรมาจากที่ไหนบ้าง มี2คนที่ซื้อบัตรผ่านทางออนไลน์ โดยซื้อบัตรจาก Ticket melon และ Festival Website ส่วนอีก1 คน ซื้อบัตรที่หน้างาน ซึ่งคนที่ซื้อบัตรจากทางหน้างานได้ไห้ข้อมูลว่าบัตรมีราคาแพงเกินไปเพราะเห็นว่าเป็นชาวต่างชาติ เลยเพิ่มราคาขึ้นเกือบครึ่งหนึ่งของราคาเดิม ซึงทั้ง3คนที่เคยเข้าร่วมคอนเสิร์ต และ Music festivalsที่ประเทศไทยบอกว่าถ้ามีโอกาสก็จะเข้าร่วมอีก ส่วนอีก1คนที่ไม่เคยเข้าร่วมคอนเสิร์ต และMusic festivalsบอกว่าถ้ามีโอกาสก็ไม่สนใจที่จะเข้าร่วมชมการแสดงเพราะจะมุ่งมาทำธุรกิจที่ประเทศไทยเท่านั้น ไม่สนใจการแสดงโชว์ประเภทนี้ ในขณะที่ข้อเสียเปรียบทางการแข่งขันคือ แบรนด์ใหม่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก มีการนำเอากลยุทธ์ที่สำคัญมาใช้คือกลยุทธ์การสร้างแบรนด์มาใช้โดยการใช้สื่อออนไลน์ กลยุทธ์การสร้างฐานลูกค้าโดยการนำเสนอรูปแบบสินค้าที่แปลกใหม่มีความแตกต่างจากตลาดในปัจจุบัน กลยุทธ์การรักษาฐานลูกค้าที่ใช้กิจกรรมส่งเสริมในรูปแบบต่างๆเพื่อทำการกระตุ้นยอดขายให้มากขึ้น กลยุทธ์การเงินที่มีระยะเวลาคืนทุนอยู่ที่ 0.703ปี อัตราผลตอบแทนภายในที่ร้อยละ 159 โดยสำหรับโครงสร้างที่ใช้ในการลงทุน เท่ากับ 6แสนบาท โดยมีมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) เท่ากับ2,680,380.85 บาท

This business plan was made up on purpose to be ready for business’s operation and to be a guideline for a business’s owner. Technique and method used in this business plan were: business environmental factors analysis, competitive analysis, and market research by using depth-interview with respondents who favor to join shows and online shopper for 24 persons. The result of internal environmental factors were found that the strengths were safety, inexpensive, co-operation with Grab, and ease of use a website; weakness were less experience in the business, less customer database, crash of website in somehow; threats were some group of people who were still untrusted in online transaction, new entrances would have join in the market later. On the other hand, the result of external environmental factors were found that opportunity was Thai Economic in 2017 would grow 3.2, which was able to make much more profit, recently people were more interested to join the show following the trend. Most consumers were aware of fake ticket and unsafe in buying. From the competitive analysis found that there are 4 direct competitors sell ticket online, whereas; indirect competitors sell offline on street and in front of concert hall. Research conclusion Set 1: from 20 interviewees who were either undergraduate or graduate, a frequency of buying online about 1-2 times a month which usually were cosmetic, bag, cloth, IT device, concert ticket, and fashion stuff with 500 – 3,000 Baht for spending each time. Online shoppers were satisfied with online sellers in medium level by 9 persons, good level by 10 person, and excellence by 1 person. Most problems in buying online were such as; having delivery expense, unclear product appearance, slow delivery, slow Q&A feedback from seller, real product different from product’s photo, and unable to examine the product before buying etc. An opinion toward an online transaction, there were 3 persons who felt that it’s a lot complicated to buy via online channel whereas the rest 17 persons found that it’s more convenience. The frequency in participating a concert and other event, there were 9 persons who had no show for 1 month, 5 persons joined 1-2 times a month, 2 persons joined 3-6 times a month, 3 persons joined 6-12 times a month, and the rest 1 person joined only once a year. Regular media channel in use was from Facebook 17 persons, Twitter 4 persons, Instagram 11 persons, TV 7 persons, radio 2 persons, news 4 persons, newspaper 1 person, and billboard 5 persons. Mostly spending about 500-3,500 Baht for buying ticket. Research conclusion Set 2: three-quarter of interviewees whose came from England, America, Iran, and Peru were ever join in concert and music festivals in Thailand, and one another was never join. All three persons who joined in concert got news from Thai’s friends by Festival website and Facebook. For a person who hadn’t joined in concert also got news from social media and brochure from Thonglor’s restaurant. From interview, a person who joined in concert and music festivals where they buy a ticket from, there were 2 persons bought via online channel which were Ticket Melon and Festival website. While the another one bought at front hall, and also giving feedback that it’s cost so much expensive since being a foreigner then was charged one-half price of initial price. All three persons were ever joined in concert and music festivals in Thailand told that they would have joined again if got a chance. Whereas, the other one who never join in concert told that no interest to join in concert even got a chance because just wanted to do a business only. Meanwhile, business’s disadvantage was unknown brand. The important strategies were used as: a brand creation by using media online, building customer database by presenting a new product which different from existing market, customer retention strategy that providing promotional activity in various kinds to stimulate a sales volume, financial strategy that had a return on investment in 0.703 years, internal rate of return (IRR) at 159%, initial investment was six hundred thousand baht, and net present value (NPV) was 2,680,380.85 Baht.