ความเชื่อ การสื่อสารแบบปากต่อปาก และความไว้วางใจที่ส่งผลต่อความตั้งใจเช่าเครื่องราง ของขลัง

Abstract

การศึกษาวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเชื่อ การสื่อสารแบบปากต่อปาก และความไว้วางใจที่ส่งผลต่อความตั้งใจเช่าเครื่องราง ของขลัง ประชากรในการวิจัย คือ ผู้เคยเช่าเครื่องราง ของขลัง และผู้ที่ไม่เคยเช่าเครื่องราง ของขลัง อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป โดยใช้วิธีการสุ่ม แบบเจาะจง และใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลทางออนไลน์ จำนวน 158 ตัวอย่าง สถิติสําหรับวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์แบบถดถอยเชิงพหุ (Multiple Regression Analysis) ผลการวิจัยพบว่า ความเชื่อที่มีต่อการเช่าเครื่องราง ของขลัง การสื่อสารแบบปากต่อปาก และความไว้วางใจต่อผู้ให้เช่าเครื่องราง ของขลัง ภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ความตั้งใจเช่าเครื่องราง ของขลัง ภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง สำหรับผลการทดสอบสมมติฐานพบว่าความเชื่อ และความไว้วางใจ ส่งผลต่อความตั้งใจเช่าเครื่องราง ของขลัง อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ในขณะที่ การสื่อสารแบบปากต่อปากไม่ส่งผลต่อ ความตั้งใจเช่าเครื่องราง ของขลัง อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

The purpose of this research is to study beliefs, word-of-mouth, and trust affecting purchase intentions toward talisman. The population studied in this research consists of individuals aged 18 years and above, including those who have previously purchased talismans and those who have not. Data collection will be conducted through an online survey, with a sample size of 158 samples. The statistics used for data analysis were percentage, mean, standard deviation, and multiple regression analysis. The research found that the level of beliefs, word-of-mouth in terms of intensity, valance of opinion, and content, as well as trust, are moderate. Purchase intentions toward talisman is also moderate. The hypothesis testing showed that beliefs, and trust affect purchase intention significantly at the level of 0.05.