พฤติกรรมการเปิดรับสื่อออนไลน์ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ของประชากรในจังหวัดปทุมธานีที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้บริการสถานเสริมความงาม

Abstract

การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาพฤติกรรมการเปิดรับสื่อออนไลน์ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ของประชากรในจังหวัดปทุมธานี 2) ศึกษาการเปิดรับสื่อที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้บริการสถานเสริมความงามของประชากรในจังหวัดปทุมธานี โดยได้ทำการเก็บรวมรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 173 คน โดยใช้แบบสอบถามออนไลน์ผ่าน Google Form และเก็บข้อมูลด้วยการแจกแบบสอบถามหน้าสถานบริการเสริมความงามโดยตรง เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล และมีการทดสอบสมมติฐานโดยการวิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) ซึ่งกำหนดค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า 1) ประชากรผู้ใช้บริการสถานเสริมความงามที่มีเพศแตกต่างกันในจังหวัดปทุมธานี มีลักษณะพฤติกรรมการเปิดรับสื่อออนไลน์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยเพศหญิงจะมีภาพรวมสูงกว่าเพศชาย เมื่อพิจารณาจากค่าเฉลี่ย 2) ประชากรผู้ใช้บริการสถานเสริมความงามมีพฤติกรรมการเปิดรับสื่อออนไลน์ที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้บริการสถานเสริมความงาม โดยตัวแปรทำนายที่สำคัญ มี 2 ตัวคือ วัตถุประสงค์การเปิดรับสื่อออนไลน์ รองลงมา เหตุผลในการเปิดรับสื่อออนไลน์ สามารถร่วมกันทำนายพฤติกรรมการเปิดรับสื่อออนไลน์แต่ละด้านที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้บริการสถานเสริมความงาม โดยมีค่าความสัมพันธ์กัน ร้อยละ 64.4

The objectives of this research were 1) to study Online Media Exposure Behavior Affecting the Decision to Use Beauty Clinic Services among Population in Pathum Thani Province during the Covid-19 Situation and 2) to study the Media Exposure Behavior Affecting the Decision to Use Beauty Clinic Services among Population in Pathum Thani Province. Data were collected from a sample of 173 people using online questionnaires via Google From and Walk in. The questionnaire was distributed directly in front of beauty salons. It is a tool for collecting information. The hypothesis was tested by multiple regression analysis, which set the statistical significance at the 0.05 level. The hypothesis testing revealed that 1) the population of beauty salon service users of different sexes in Pathum Thani Province had significantly different online media exposure behaviors at the 0.05 level. The overall picture is higher than that of males when considering the average 2) The population of beauty salon users have behaviors of exposure to online media that affect their decision to use beauty salon services. There were 2 essential predictor variables, namely the objective of online media exposure, followed by the reason for online media exposure. They were able to jointly predict the behavior of each aspect of online media exposure affecting the decision to use beauty salon services with a correlation of 64.4 percent.