การศึกษาคุณสมบัติของผู้ประกอบการ การวัดผลเชิงดุลยภาพ และเครือข่ายของธุรกิจที่มีผลต่อความสามารถทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทย: กรณีศึกษาผู้ประกอบการรายใหม่ (Start-up) ในเขตกรุงเทพมหานคร

Abstract

วัตถุประสงค์ของการศึกษา มีดังนี้ 1) เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นด้านความสามารถทางธุรกิจของผู้ประกอบการรายใหม่ (Start-up) ในเขตกรุงเทพมหานคร 2) เพื่อเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของผู้ประกอบการรายใหม่ (Start-up) ในเขตกรุงเทพมหานครที่มีปัจจัยคุณสมบัติส่วนบุคคลด้านเพศ อายุ สถานภาพ การศึกษา อาชีพ และรายได้ ต่อความสามารถทางธุรกิจของผู้ประกอบการรายใหม่ (Start-up) ในเขตกรุงเทพมหานคร 3) เพื่อศึกษาอิทธิพลของปัจจัยด้านการวัดผลเชิง ดุลยภาพที่มีผลต่อความสามารถทางธุรกิจของผู้ประกอบการรายใหม่ (Start-up) ในเขตกรุงเทพมหานคร 4) เพื่อศึกษาอิทธิพลของปัจจัยด้านปัญหาด้านปัจจัยด้านเครือข่ายของธุรกิจที่มีผลต่อความสามารถทางธุรกิจของผู้ประกอบการรายใหม่ (Start-up) ในเขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ประกอบการรายใหม่ (Start-up) ในเขตกรุงเทพมหานครที่เข้าร่วมงาน “SME One fest 2018” ทั้งหมด 150 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) สถิติพื้นฐานที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติเชิงอนุมาน คือ การทดสอบหาความแตกต่างค่าที (Independent Samples t-test) การทดสอบหาความแตกต่างค่าเอฟ (F-test) โดยการวิเคราะห์ ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One-Way ANOVA) และการวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุ (Multiple Regression Analysis) ผลการศึกษา พบว่า 1) ปัจจัยคุณสมบัติส่วนบุคคล ประกอบด้วย อายุและรายได้ที่แตกต่างกัน มีอิทธิพลต่อระดับความสามารถทางธุรกิจของผู้ประกอบการรายใหม่ (Start-up) ในเขตกรุงเทพมหานครที่แตกต่างกัน 2) การวัดผลเชิงดุลยภาพ มุมมองด้านงบประมาณและทรัพยากร มุมมองด้านกระบวนการภายใน และมุมมองด้านการเรียนรู้และพัฒนา มีอิทธิพลต่อความสามารถทางธุรกิจของผู้ประกอบการรายใหม่ (Start-up) ในเขตกรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญที่ 0.05 และมุมมองด้านพนักงาน ไม่มีอิทธิพลต่อความสามารถทางธุรกิจของผู้ประกอบการรายใหม่ (Start-up) ในเขตกรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญที่ 0.05 3) ปัจจัยด้านเครือข่ายของธุรกิจ ด้านเครือข่ายความคิด และด้านสนับสนุนทุน มีอิทธิพลต่อความสามารถทางธุรกิจของผู้ประกอบการรายใหม่ (Start-up) ในเขตกรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญที่ 0.05 และด้านเครือข่ายกิจกรรม ไม่มีอิทธิพลต่อความสามารถทางธุรกิจของผู้ประกอบการรายใหม่ (Start-up) ในเขตกรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญที่ 0.05

The purposes of this research are: 1) to study a personal data that affect toward Thai entrepreneurs ability, 2) to compare Thai entrepreneurs’s opinion about personal data including gender, age, marital status, educational level, occupation and income that affect toward Thai entrepreneurs ability 3) To study Key Success Factors that affect toward Thai entrepreneurs ability 4) to study business social networking that affect toward Thai entrepreneurs ability. The samples used in this research were 150 customers of Thai entrepreneurs in “SME One fest 2018” by using purposive sampling method. The basic statistic methods used in this research were frequency, percentage, mean, and standard deviation. The inferential statistics were independent samples t-test, F-test, One-Way ANOVA, and multiple regression analysis. From the research has found that 1) the difference between personal characteristics including: age and income affected toward Thai entrepreneurs ability. 2) key success factors that affect toward Thai entrepreneurs ability are financial perspective, internal process perspective and learning and growth perspective except customer perspective had a statistical significant level at the 0.05. 3) Business social networking that affect toward Thai entrepreneurs ability are cognitive network and financial support network except activity network had a statistical significant level at the 0.05.