แผนธุรกิจ ยักษ์ยิ้มฟาร์ม

Abstract

การศึกษาแผนธุรกิจยักษ์ยิ้มฟาร์ม มีวัตถุประสงค์เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักตราสินค้าอย่างน้อย 80% และสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับธุรกิจในอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น 20% ต่อปี แผนธุรกิจนี้ได้ทำการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ สภาพการแข่งขัน และวิจัยการตลาดด้วยวิธีการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการ จำนวน 6 ราย และวิธีการสำรวจโดยการแจกแบบสอบถามให้กับผู้บริโภคที่รักสุขภาพจำนวน 110 ราย การวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา และสถิติพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ และค่าเฉลี่ย ผลการศึกษาพบว่า จุดแข็งของธุรกิจ คือ การใช้ระบบ Smart farming จุดอ่อน คือ ยักษ์ยิ้มฟาร์มเป็นธุรกิจใหม่ ยังไม่เป็นที่รู้จัก ในขณะที่โอกาส คือ เทรนด์รักสุขภาพที่เลือกรับประทานผักสลัดปลอดสารพิษเพิ่มมากขึ้น และอุปสรรค คือ ผู้บริโภคมีความเข้าใจผิดเรื่องผักไฮโดรโปนิกส์ สำหรับการวิเคราะห์คู่แข่งขันพบว่า คู่แข่งประเภท B2B ส่วนใหญ่ยังด้อยในเรื่องการควบคุมคุณภาพผักและโรคพืช ส่วนประเภท B2C พบว่าส่วนน้อยมีความแข็งแกร่งในตลาด สำหรับการวิจัยการตลาด พบว่า ผู้ให้สัมภาษณ์ของผู้ค้าผักสลัด ด้านราคามีความผันผวนตามฤดูกาลและสภาพอากาศ ผู้ประกอบการร้านอาหารต้องการฟาร์มที่มีผลผลิตส่งได้ตลอดเวลา เน้นคุณภาพ ปลอดสารพิษ ในขณะที่ผู้ประกอบการแปรรูปรายย่อยต้องการฟาร์มที่ขายในราคาถูก สำหรับผู้ตอบแบบสอบถามพบว่า สวนใหญ่มีความเห็นว่า ผักต้องมีความสด กรอบ ราคาต้องมีความเหมาะสมเมื่อเทียบกับสินค้าประเภทเดียวกัน ต้องการให้มีบริการจัดส่งถึงที่มากที่สุด และต้องการให้มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลายช่องทาง แผนธุรกิจยักษ์ยิ้มฟาร์ม เป็นโครงการฟาร์มผักไฮโดรโปนิกส์ปลอดสารพิษ โดยใช้งบประมาณการลงทุนเริ่มต้นจำนวน 2,610,000 บาท และในปีที่ 4 มีการขยายโครงการโดยเพิ่มสลัดสำเร็จรูปและน้ำสลัด มีการลงทุนเพิ่ม 1,900,000 บาท เมื่อพิจารณาความเป็นไปได้ของธุรกิจยักษ์ยิ้มฟาร์ม พบว่า คุ้มค่าแก่การลงทุน โดยมีมูลค่าปัจจุบันสุทธิเท่ากับ 4,492,779 บาท และมีอัตราผลตอบแทนภายในเท่ากับ 68% มีระยะเวลาคืนทุน 2.979 ปี

The objectives of YAK YIM FARM business plan is to make the brand more recognizable by 80% and to increase 20% of profit margin per year. This business plan has analyzed SWOT, market competition and market research by interview with 6 business owners and by questionnaire with 110 health-conscious persons. Data analysis used content analysis and descriptive statistics that consist of frequency, percentage and mean. The results show that the strength of this business plan is the use of a smart farming system. Weakness is a new business. Opportunity is a health-conscious trend that loves to eat pesticide-free salad. And threat that has many fake news about cancer causing in hydroponic vegetables. The competitor analysis, most B2B businesses are weak to control growth factors and diseases while most B2C businesses are not strong in the market. The marketing research, lettuce seller says the price of lettuce related to seasonal and weather. The restaurant need farm that can support needed all the time and pesticide-free while a small processed food business need lettuce at a lower price. The marketing mix factors, the people need fresh products and crispy, reasonable price, need delivery service and need various channels of distribution. YAK YIM FARM business plan is a hydroponic farm project that pesticide-free. The investment budget of this project is 2,610,000 baht. The project has been expanded in the fourth year by adding Ready to eat salads and Salad dressing. The additional investment budget is 1,900,000 baht. In conclusion, this business plan is worth to invest. Net present value is 4,492,779 baht, the internal rate of return is 68% and payback period is 2.979 years.