กลยุทธ์การนำเสนอข่าวเลือกตั้ง 2562 ของช่อง 7HD คอลัมน์เจาะสนามเลือกตั้ง 62 โดยใช้ช่วง ‘แบบนี้รู้เรื่อง’ เป็นกรณีศึกษา

Abstract

การศึกษาวิจัย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากลยุทธ์การนำเสนอข่าวการเลือกตั้งช่วง 2562 "แบบนี้รู้เรื่อง" การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้วิธีเก็บรวบรวม ข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ เชิงลึกจากผู้บริหาร, บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าวของฝ่ายข่าว ช่อง 7HD ผู้มีความเกี่ยวข้อง และทำหน้าที่รับผิดชอบกำกับดูแลช่วง “แบบนี้รู้เรื่อง” จำนวน 6 ท่าน โดยมีขอบเขตการศึกษาวิเคราะห์ ช่วง “แบบนี้รู้เรื่อง” ที่ออกอากาศก่อนการเลือกตั้ง 2562 ตั้งแต่วันที่แรกที่ออกอากาศ คือ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2561–11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ผลการวิจัยพบว่า ช่วง “แบบนี้รู้เรื่อง” มีกลยุทธ์การนำเสนอที่สำคัญ คือ 1) การทำเรื่องยากให้เข้าใจง่าย ซึ่งเป็นกลยุทธ์การสื่อสารที่ทางฝ่ายข่าวช่อง 7HD พิจารณาว่าเหมาะสมกับกลุ่มคนดูของช่องที่เป็นชนชั้นกลางลงล่าง และไม่ได้มีพื้นฐานความสนใจในเรื่องของข่าวการเมือง จึงจำเป็นต้องคิดกลยุทธ์การนำเสนอข่าวการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องยากและซับซ้อนให้ดูแล้วเข้าใจได้ทันที และ 2) การนำ เสนอความรู้คู่ไปกับความบันเทิง ผ่านรูปแบบการนำเสนอที่สนุกสนาน สอดแทรกมุขตลก สร้างความใกล้ชิดกับผู้ชม ทำให้การเมืองเป็นเรื่องใกล้ตัว การสร้างคอนเทนต์หรือเนื้อหาช่วง “แบบนี้รู้เรื่อง” ให้กลุ่มคนดูติดตามชม นอกจากจะช่วยสร้างภาพลักษณ์อันน่าเชื่อถือในการเป็นองค์กรสื่อที่ดี และ สนับสนุนประชาธิปไตยแล้ว ยังหวังให้ประชาชนหันมาดูข่าวการเมืองกันมากขึ้น เป็นการเพิ่มเรตติ้ง หรือผลกำไรให้กับช่อง สอดคล้องกับทฤษฎีการตลาดคอนเทนต์ และสอดคล้องกับทฤษฎีการสื่อสารเพื่อโน้มน้าวใจในการทำหน้าที่สื่อมวลชนให้ความรู้ประชาชน เรื่องของการเลือกตั้ง 2562 ที่เปลี่ยน แปลงไปจากเดิม จนท้ายที่สุดแล้ว คนดูช่อง 7HD รู้สึกถึงความจำเป็นในการออกไปลงคะแนนเสียง เพื่อกำหนดอนาคตประเทศ

The research on “News Strategy of Channel 7HD: Case Study on “Bab Nee Roo Reung” is to study the strategy “Bab Nee Roo Reung”in reporting the 2019 General Election news. The study is a qualitative research. Data were collected from in-depth interviews with six members in the Channel 7HD News Team; executives, senior supervisors, editors and news reporters who are involved in the production of “Bab Nee Roo Reung”. The research was carried out during the program’s on-air period starting from 11th of December 2018 to 11th of February 2019. The research findings show that the strategic communication of “Bab Nee Roo Reung” is to 1) simplify the complicated political news so that it could grab the attention of Channel 7HD’s target group which are the middle class and the political illiterate. 2) “Bab Nee Roo Reung” shows that the news program can edutain Thai viewers about the general election news. Moreover, it responds to marketing theories; content marketing which both help deliveringthe pro-democracy image of Channel 7HD and increasing ch7HD’s ratings amoung the viewers. “Bab Nee Roo Reung” also responds to persuasive communication theory which the viewers can gain knowledge about 2019’s general election and fufil a civic duty of Thai people to vote on the election day.