การศึกษาปัจจัยส่วนบุคคล การยอมรับเทคโนโลยี และวัฒนธรรมองค์กร ที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการทำงานของพนักงานธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สังกัดกลุ่มเครือข่ายภาคกลาง

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ปัจจัยส่วนบุคคล การยอมรับเทคโนโลยี และวัฒนธรรมองค์กร ที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการทำงานของพนักงานธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สังกัดกลุ่มเครือข่ายภาคกลาง โดยได้ทำการใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลจากพนักงานธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สังกัดกลุ่มเครือข่ายภาคกลาง โดยทำการคัดเลือกมา 2 สำนักงานเขตเขต ได้แก่ 1) สำนักงานเขตนนทบุรี 1 และ 2) สำนักงานเขตนนทบุรี 2 สำนักงานเขตละ 200 คน รวม 400 คน และใช้วิธีการทางสถิติ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์สมมติฐาน ใช้สถิติทดสอบหาความสัมพันธ์แบบถดถอยอย่างง่าย (Simple Regression Analysis) และสถิติวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุ (Multiple Regression Analysis) ผลการศึกษาพบว่าผลการวิจัยพบว่าปัจจัยส่วนบุคคลด้าน อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพ อายุงาน ปัจจัยด้านการยอมรับเทคโนโลยี และวัฒนธรรมองค์กรมีผลต่อประสิทธิผลการทำงานของพนักงานธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) สังกัดกลุ่มเครือข่ายภาคกลาง ส่วนปัจจัยส่วนบุคคลด้านรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ไม่มีผลต่อประสิทธิผลการทำงานของพนักงานธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) สังกัดกลุ่มเครือข่ายภาคกลาง อย่างมีนัยยะสำคัญที่ 0.05

The objective of this study was to examine a study of personal characteristics, technology acceptance and organizational culture affecting job performance of Krungthai Bank employees of CENTRAL REGION NETWORK SECTOR. A total of 400 employees of Krung Thai Bank at the Nonthaburi 1 branch and the Nonthaburi 2 branch, 200 of each branch, were randomly selected as sample of the study. The data were collected using questionnaires and were analyzed by using statistical processes like percentage and standard deviation, as well as hypothesis analyses which included simple regression analysis and multiple regression analysis. The results of the study were as follows: 1) Personal factors, including age, level of education, status and duration of employment; technology acceptance; and organizational culture affected the work efficiency of said employees. 2) A personal factor in terms of monthly average income did not have impact on the work efficiency of said employees at a statistically significant level of 0.05