แผนธุรกิจร้านเบเกอรี่

Abstract

การศึกษาแผนธุรกิจร้านน้องขนมไทยและเบเกอรี่มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการพิจารณาความเป็นไปได้ในการขยายสาขาในจังหวัดนนทบุรี และใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการร้าน และให้ธุรกิจสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่า 30 % ต่อปี แผนธุรกิจนี้ได้ทำการศึกษาโดยวิธีการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ การวิเคราะห์คู่แข่งรูปแบบทางธุรกิจ และการวิจัยการตลาดด้วยวิธีการวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือผู้ที่สัญจรผ่านบริเวณหน้าทีทำการอำเภอไทรน้อย จำนวน 150 คน และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ และค่าเฉลี่ย ผลการศึกษาพบว่า จุดแข็งของธุรกิจคือ ความสดใหม่ และความคุ้มค่า จุดอ่อนของธุรกิจ คือช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีเพียงช่องทางเดียว ในขณะที่โอกาส ได้แก่ เทคโนโลยีที่ทำให้การค้าขายเกิดขึ้นได้ทุกทีตลอด 24 ชั่วโมง และอุปสรรค ได้แก่ สินค้าทดแทนที่มีจำนวนมาก เมื่อพิจารณาถึงคู่แข่งขันพบว่า 7-11 เป็นคู่แข่งขันหลักโดยมีจุดแข็ง คือจำนวนสาขาที่มากและการให้บริการ 24 ชั่วโมงและจุดอ่อน คือ ความหลากหลายและความสดใหม่ สำหรับรูปแบบของธุรกิจของ ร้านน้องขนมไทยและเบเกอรี่ คือ ร้านจำหน่ายขนมไทย ขนมเบเกอรี่และขนมไทยประยุกต์ ที่มีความโดดเด่นด้านความสดใหม่ รูปลักษณ์ที่ทันสมัย และความแปลกใหม่ของขนมที่ถูกพัฒนาออกมาอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าจะรับรู้ได้ถึงความใส่ใจ และความคุ้มค่า ภายในตัวร้านมีที่นั่งให้บริการ อีกทั้งยังมีบริการสั่งซื้อออนไลน์และบริการส่ง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าอีกด้วย สำหรับผลการวิจัยการตลาดพบว่าปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อขนมมากที่สุดคือ ด้านการบริการ ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการบริการที่รวดเร็วและถูกต้อง มากที่สุด การพัฒนากระบวนการทำงานให้รวดเร็วและถูกต้องจึงเป็นส่วนที่ผู้ประกอบการจะต้องให้ความสำคัญมากที่สุดรองลงมาได้แก่ด้านผลิตภัณฑ์ ผู้บริโภคให้ความสำคัญเรื่อง รูปลักษณ์ และรสชาติมากที่สุด ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ทำเลที่ตั้งของร้านต้องใกล้แหล่งชุมชน เข้าถึงได้ง่าย และต้องมีที่จอดรถเพียงพอ

เมื่อวิเคราะห์ความน่าสนใจของธุรกิจ พบว่า การลงทุนเปิดสาขาคุ้มค่าแก่การลงทุน โดยใช้งบประมาณในการลงทุน 1,423,100 บาท มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) 3,064,713.75 บาท มีอัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) เท่ากับ 85% และใช้ระยะเวลาคืนทุนเพียง 1.16 ปี

The business plan study of Nong Thai Dessert and Bakery shop has the objective to consider the feasibility of expanding the branches in Nonthaburi province and used it as a guideline to manage the shop moreover, to make the business generate more than 30% return on investment per year. This business plan was studied by the business environment analysis method, the competitive business models analysis method, and the marketing research using a quantitative research by using the questionnaire as a research tool. The study population consists of 150 people traveled through the area of Sai Noi district office, and the statistics used for the analysis were frequency, percentage, and mean. The study indicated that the strength of the business is a freshness and worthiness. The business’s weakness is an only one distribution channel while the opportunity includes technology that makes a 24-hour trading, and barrier is a various substitute. When considering the competitors, 7-11 shop is the main competitor with strong point that is the number of branches with a 24-hour service, and its weakness is a diversity and freshness. For the business model of the Nong Thai Dessert and Bakery shop is Thai dessert, bakery and Thai applied dessert shop that has the remarkableness of a freshness, modern look, and novelty of the dessert which has been developed continuously. Customers will recognize an attention and worthiness inside the store where has seats to serve. There is also an online ordering and delivery service to facilitate the customers. The result of the marketing research showed that the factor that influences the decision to buy desserts the most is a service. The consumers emphasize fast and accurate services the most. Therefore, the most significant part that an entrepreneur should highlight is a development of a fast and accurate work process, followed by the product. The consumers concern an appearance and taste the most. Distribution channel, the location of the shop must be close to the community, easy to access, and there must be enough parking. When analyzing the interest of the business found that the investment of brunches expanding is worthwhile by spending 1,423,100 baht for a capital, a net present value (NPV) of 3,064,713.75 baht, and has an internal rate of return (IRR) of 85% while a payback period is only 1.16 years.