ระดับความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวขาวไทยที่มีผลต่อการเดินทางท่องเที่ยว หาดแม่พิมพ์จังหวัดระยอง

Abstract

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา และเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นที่มีต่อส่วนประสมทางการตลาดของนักท่องเที่ยวชาวไทย โดยจำแนกตามลักษณะทางประชากรศาสตร์ และจำแนกตาม พฤติกรรมของนักท่องเที่ยว โดนกลุ่มตัวอย่าง คือ นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยวหาดแม่พิมพ์ จังหวัดระยอง จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยครั้งนี้ คือ แบบสอบถาม (Questionnaire) ซึ่งระดับความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยวหาดแม่พิมพ์ จังหวัดระยอง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ โดยสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การคำนวณค่าความถี่ (Frequencies) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Divsion) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (Anova) และ การทดสอบรายคู่โดยใช้สูตร (LDS) โดยกำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลวิจัยพบว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุอยู่ในช่วง 21-30 ปี มีสถานภาพโสด ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัวหรือค้าขาย และมีรายได้โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1,5001-3,000 บาท นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางมาท่องเที่ยว 7 ครั้ง และมีวัตถุประสงค์ในการเดินทางมาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ โดยมีผู้ร่วมเดินทางเป็นครอบครัว มีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวเฉลี่ย 1,001-2,000 บาท ต่อครั้ง และใช้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเป็นยานพาหนะหลักในการเดินทาง มีแหล่งข้อมูลในการตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวจากการบอกเล่าของกลุ่มเพื่อน นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยวหาดแม่พิมพ์ จังหวัดระยองมีระดับความคิดเห็นต่อส่วนประสมทางการตลาดในด้านต่างๆ ดังนี้ 1)ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายมีค่าเฉลี่ย = 3.81 2)ด้านผลิตภัณฑ์มีค่าเฉลี่ย = 3.59 3)ด้านลักษณะทางกายภาพมีค่าเฉลี่ย = 3.59 4)ด้านกระบวนการมีค่าเฉลี่ย =3.37 5)ด้านบุคลากรมีค่าเฉลี่ย = 3.36 4) 6)ด้านส่งเสริมการขายมีค่าเฉลี่ย = 3.30 และ 7)ด้านราคามีค่าเฉลี่ย = 3.22 ดังนั้นการรักษาคุณภาพและความงดงามของสถานที่ท่องเที่ยว รวมไปถึงการจัดสรรที่จอดรถ และมาตรการการรักษาความปลอดภัยก็เป็นจุดประเด็นสำคัญในการสร้างความถึงพอใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวสืบต่อไป

The purpose of this research is studying the different level of Thai tourist’s opinions on marketing mix (7Ps) based on characteristic of population and Thai tourist’s behavior. The sample sizes for study are 400 Thai people who visited at Mae Phim Beach Rayong. The instruments of this research are questionnaire and statistic software that analyzed and measured the difference of Thai tourist’s opinion in form of Percentage, Mean, Standard Division, Independent Sample Test, One way Analysis (ANOVA) and LSD at 0.05 statistically significant levels. The findings show that majority people who came to Mae Phim Beach are female, aged between 21-30 years, most percentages of target group are single, most participants work is business owners and their salary range between 15,000-30,00 baht. Regarding to their behavior,, most of tourists previously visit the Mae Phim Beach more than 7 times; they came with their families and the average spending per one visiting is around 1,001-2,000 baht, most of them came by private cars and the source of information of Mae Phim Beach came from their friends. According to tourist’s opinion, marketing mix (7Ps) were respectively ranged in following 1)Place Mean = 3.81 2)Product Mean = 3.59 3)Physical Mean = 3.59 4)Process Mean = 3.37 5)People Mean = 3.36 6)Promotion Mean = 3.30 and 7)Price Mean = 3.22 However, maintaining the quality and good scenery of attraction are still important points. Including parking area and security system have to be managed for satisfy them to come back in next time.