ปัจจัยที่ส่งผลต่อทัศนคติและความตั้งใจใช้อุปกรณ์แบบสวมใส่ได้ ของประชาชนในกรุงเทพมหานคร

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบและความสอดคล้องเข้ากันได้ที่มีอิทธิพลต่อการรับรู้ถึงประโยชน์ของอุปกรณ์แบบสวมใส่ได้ (2) เพื่อศึกษาการรับรู้ถึงประโยชน์ การรับรู้ถึงความง่ายในการใช้งาน และการรับรู้ถึงความเพลิดเพลินที่มีอิทธิพลต่อทัศนคติต่อการใช้อุปกรณ์แบบสวมใส่ได้ และ (3) เพื่อศึกษาอิทธิพลทางสังคมและทัศนคติต่อการใช้ที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจใช้อุปกรณ์แบบสวมใส่ได้ของประชาชนในกรุงเทพมหานคร โดยใช้แบบสอบถามที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพด้านความตรงและความเที่ยงแล้วเป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน ในกรุงเทพมหานครที่เป็นผู้ใช้หรือมีความสนใจจะใช้อุปกรณ์แบบสวมใส่ได้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้การวิเคราะห์การถดถอยเชิงเส้นแบบพหุคูณที่ระดับนัยสำคัญ .05 ในการทดสอบสมมติฐาน ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 31 – 35 ปี ระดับการศึกษาในระดับปริญญาตรี รายได้ส่วนตัวเฉลี่ยต่อเดือน 25,001 – 35,000 บาท โดยส่วนใหญ่สนใจใช้นาฬิกาและสายรัดข้อมือตามลำดับ ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า (1) ความได้เปรียบโดยเปรียบ เทียบและความสอดคล้องเข้ากันได้มีอิทธิพลทางบวกต่อการรับรู้ถึงประโยชน์ของอุปกรณ์แบบสวมใส่ได้ (2) การรับรู้ถึงประโยชน์ การรับรู้ถึงความง่ายในการใช้งาน และการรับรู้ถึงความเพลิดเพลินมีอิทธิพลทางบวกต่อความตั้งใจใช้อุปกรณ์แบบสวมใส่ได้ (3) ทัศนคติ และอิทธิพลทางสังคมมีอิทธิพลทางบวกต่อความตั้งใจใช้อุปกรณ์แบบสวมใส่ได้

The purposes of this study were (1) to investigate the influences of relative advantage and compatibility on perceived usefulness (2) to compare the influences of perceived usefulness, perceived ease of use and perceived enjoyment on attitude toward using of wearable devices and (3) to study the influences of social influence and attitude toward using on intention to use wearable devices of people in Bangkok. The questionnaire having been passed the quality tests of both validity and reliability was used as a tool to collect data from 400 samples who had been interested in using wearable devices. Statistics used for data analysis were frequency, percentage, standard deviation, and Linear models of multiple regression analysis at .05 significant level were applied for testing hypotheses. The results showed that most of the samples were female between 31 and 35 years old, monthly income 25,001 – 35,000 Baht, most interested in smart watches and smart wrist respectively. The results of the hypothesis testing showed that (1) relative advantage and compatibility have positive influences on the perceived usefulness of wearable devices. (2) perceived usefulness, perceived ease of use and perceived enjoyment have positive influences on attitude toward using the wearable device. (3) social influence and attitude toward using have positive influences on intention to use the wearable device.