เปรียบเทียบความสามารถในการอธิบายราคาหลักทรัพย์ระหว่างอัตราส่วนทางการเงิน 2 ประเภท: หลักฐานจากกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

Abstract

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอธิบายราคาหลักทรัพย์ระหว่างอัตราส่วนทางการเงิน 2 ประเภท อ้างอิงหลักฐานจากกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยใช้ข้อมูลอัตราส่วนทางการเงินแบบดั้งเดิม ได้แก่ อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียน (current ratio) อัตราส่วนหมุนเวียนสินทรัพย์รวม (Total Asset Turnover) อัตราส่วนหนี้สินต่อทรัพย์สินรวม (Debt-to-Asset Ratio) อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) อัตราส่วนหนี้เป็นรายได้จากการดำเนินงานสุทธิหารด้วยการชำระหนี้ (Debt Coverage Ratio) เปรียบเทียบกับอัตราส่วนทางการเงินกระแสเงินสดแบบใหม่ ได้แก่ อัตราส่วนกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของต่อเงินกู้ระยะสั้น (Cash to Short Term Debt) อัตราส่วนกระแสเงินสดต่อทรัพย์สินถาวร (Cash to Fixed Assets) อัตราส่วนกระแสเงินสดต่อหนี้สินรวม (Cash to Total Debt) อัตราส่วนกระแสเงินสดต่อสินทรัพย์รวม (Cash to Total Assets) อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อกระแสเงินสด (Debt Coverage) โดยอาศัยข้อมูลรายไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ของปี พ.ศ.2549 ถึงไตรมาสที่ 1 ของปี พ.ศ.2559 โดยใช้การวิเคราะห์สมการถดถอยเชิงพหุคูณ เปรียบเทียบความสามารถในการอธิบายราคาหลักทรัพย์ โดยใช้อัตราส่วนทางการเงินแบบดั้งเดิมกับอัตราส่วนทางการเงินแบบกระแสเงินสดแบบใหม่ ผลการศึกษาพบว่า อัตราส่วนทางการเงินแบบกระแสเงินสดแบบใหม่ แสดงให้เห็นว่ากระแสเงินสดและส่วนประกอบคงค้างของรายได้สามารถนำมาใช้ในการคาดการณ์กระแสเงินสดในอนาคตของบริษัทกลุ่มตัวอย่างได้เป็นอย่างดี และให้ค่าการพยากรณ์ที่ดีกว่าอัตราส่วนทางการเงินตามแบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตามผลการวิจัยพบว่าอัตราส่วนกระแสเงินสดสามารถมองเห็นภาพรวมของสภาพคล่องของบริษัทที่ชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้การศึกษาครั้งนี้พบว่าวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบต่อความผิดปกติสภาพของตลาดหุ้นที่เกิดจากการการจัดการของข้อมูลทางบัญชีสำหรับปีงบการเงินติดต่อกันของแต่ละบริษัทอีกด้วย

This study aimed to compare the ability in explanation for stock price between 2 types of financial ratios based on the evidence of beverage industry that listed in the Stock Exchange Of Thailand or SET by using the information of basic financial ratios which are current ratio, total asset turn over, Debt to Asset Ratio, Return on Asset, Debt ratios come from the revenue of working procedures divide by Debt Coverage ratio compare with new cash flow financial ratio which are cash to short term Debt , the ratio of cash t fixed assets, Cash to total debt, Cash to total Assets, and Debt coverage by using quarterly information start from the first quarter of year 2006 till the first quarter of year 2016 by using the multiple regression analysis equation to measured ability of stock price based on the originally financial ratio together with the new cash inflow. The result indicated that the new type ratio for cash inflow and accrual income can be used to speculate future cash flow for sample group of companies very well which also give the better result from the original financial ratios either. However, the research found that cash flow ratio can get more clearly holistic view of company liquidity. In addition, the study also found that the financial crisis has been effected to stock market which occurred from the management accounting information for the fiscal year continuously to each company as well.