ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคน้ำดื่มบรรจุขวดตราเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ในจังหวัดนนทบุรี

Abstract

การศึกษาฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคน้ำดื่มบรรจุขวดตราเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ในจังหวัดนนทบุรี เป็นการศึกษาเชิงปริมาณที่ ตัวแปรต้นที่ใช้ในการวิจัย คือ (1) ปัจจัยส่วนบุคคล (2) ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาด และตัวแปรตามคือพฤติกรรมผู้บริโภคน้ำดื่มบรรจุขวดตราเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล และกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยใช้วิธีการสุ่มอย่างแบบตามสะดวกจากกลุ่มผู้บริโภคน้ำดื่มบรรจุขวดในจังหวัดนนทบุรี จำนวน 400 คน ซึ่งสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติไคสแควร์ ผลการวิจัยพบว่า (1) ลักษณะทางประชากรศาสตร์ของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นลูกค้าที่เคยซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดตราเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 20-29 ปี มีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชน การศึกษาระดับปริญญาตรี รายได้เฉลี่ยต่อเดือนระหว่าง 30,001-40,000 บาท มีจำนวนสมาชิกในครอบครัว 3-4 คน (2) ความคิดเห็นต่อการตัดสินใจซื้อในปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ของน้ำดื่มบรรจุขวดตราเนสท์เล่ เพียวไลฟ์แต่ละด้านแล้วพบว่ามีความคิดเห็นด้วยมากในด้านความมั่นใจในความสะอาดปลอดภัย การได้รับรองมาตรฐานด้านคุณภาพสากล ฉลากผลิตภัณฑ์แสดงข้อมูลผู้ผลิตชัดเจน ชื่อเสียงของน้ำดื่มตราเนสท์เล่เพียวไลฟ์ ฝาบรรจุภัณฑ์ปิดสนิทเปิดง่าย รสชาติของน้ำดื่ม รูปลักษณ์ของบรรจุภัณฑ์สามารถจับถือ และพกพาได้สะดวก ฉลากผลิตภัณฑ์มีข้อมูลแสดงการร้องเรียนสำหรับผู้บริโภค ฉลากผลิตภัณฑ์มีความสวยงามและความดึงดูดให้ซื้อ การเข้าถึงข้อมูลด้วย QR Code บนฉลากผลิตภัณฑ์ (3) ความคิดเห็นที่มีต่อพฤติกรรมการซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดตราเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ส่วนใหญ่เป็นขนาด 600 มิลลิลิตร ซื้อบ่อยครั้งละ 1 - 2 วัน/สัปดาห์ จากร้านสะดวกซื้อ เช่น ร้าน 7-11 ให้เหตุผลที่สำคัญที่สุดในด้านคุณภาพน้ำดื่ม บุคคลที่มีส่วนในการตัดสินใจซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดเนสท์เล่ เพียวไลฟ์เป็นตนเอง โดยปกติซื้อครั้งละ 1 – 2 ขวด ซื้อเฉลี่ยต่อเดือนราคาต่ำกว่า 600 บาท (4) ผลการทดสอบสมมุติฐาน พบว่า เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ สถานภาพ รายได้ครอบครัวเฉลี่ยต่อเดือน และจำนวนสมาชิกในครอบครัวมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดตราเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ในจังหวัดนนทบุรีและปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดด้านผลิตภัณฑ์มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดตราเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ของผู้บริโภคในจังหวัดนนทบุรี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้

The objective of this quantitative research was to study the factors related to consumption behavior on Nestlé Pure Life bottled water in Nonthaburi. The independent variables used were the personal factor, product and price factor. The dependent variables used was the consumer’s behavior toward Nestlé Pure Life bottled water. The questionnairrs were used for collecting data. The sample sizes of this research were 400 people who lived in Nonthaburi by using convenience sampling. The descriptive statistics used were the percentage, the average, the standard aviation, and Chi-Square Test. The research has been shown as follow. 1. The demographic characters of the respondents were female from 3-4 people in their families between the ages of 20-29 with a bachelor degree, working as employees in private companies with average monthly income between 30,001-40,000 bahts 2. The opinion on buying decision toward the Nestlé Pure Life bottled water was in good level in the aspects of hygiene, international standard accreditation, convenient container’s design, taste of water, and the useful information in the label. 3. The most of product bought was 600 ml. bottled water, which was approximately bought 1-2 days a week from the convenient store such as 7-11. The average of monthly expense on Nestlé Pure Life bottled water was below 600 bahts. Most of respondents considered on water quality and made the decision by the mselves. 4. The result of hypothesis testing has been shown that the demographic factors such as gender, age, education, occupation marritual status, monthy family income, and the family members, were related on the buying behavior. Also, the marketing-mix factor in the aspect of product related the buying behavior at statistical significant at 0.05 levels.