โครงการจัดตั้งธุรกิจเครื่องดื่มชา: กรณีศึกษา Master Tea

Abstract

การศึกษาโครงการจัดตั้งธุรกิจเครื่องดื่มชา : กรณีศึกษา Master Tea นี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาพฤติกรรมในการบริโภคน้ำชาของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร 2) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด (7Ps) ที่มีผลต่อการตัดสินใจบริโภคน้ำชา 3) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการจัดตั้งธุรกิจร้านน้ำชาในเขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ ผู้บริโภคน้ำชาที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร ทั้งเพศชายและเพศหญิง จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ การใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติเชิงพรรณนาได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมุติฐาน ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 26 – 35 ปี มีสถานภาพสมรส มีการศึกษาในระดับปริญญาตรี ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัทหรือองค์กรเอกชน และมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนมากกว่า 30,000 บาท มีความถี่ในการบริโภคน้ำชา 2-3 ครั้งต่ออาทิตย์ ในช่วงเวลาทำงาน ซึ่งจะเลือกบริโภคชาดำบ่อยที่สุด ลักษณะของร้านน้ำชาที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ชื่นชอบ คือ เคาร์เตอร์มีที่นั่ง ราคาของน้ำชาที่คิดว่าเหมาะสม คือ 40 - 54 บาทต่อแก้ว โดยเลือกดื่มชาในสถานที่อื่น ๆ เช่น ร้านชาโดยตรง, สถานีรถไฟฟ้า, มหาวิทยาลัย ซึ่งเลือกดื่มชาด้วยตัวเอง เหตุผลที่เลือกใช้บริการร้านน้ำชาเพราะตั้งใจมาดื่มชา และผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ให้ความสำคัญต่อปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจบริโภคน้ำชาในด้านต่าง ๆ 1) ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ( = 3.97) โดยให้ความสำคัญกับรสชาติและความหอมของน้ำชา ในระดับมากที่สุด 2) ปัจจัยด้านราคา ( = 4.02) โดยให้ความสำคัญกับราคามีความเหมาะสมกับคุณภาพของน้ำชา ในระดับมาก 3) ปัจจัยด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ( = 4.24) โดยให้ความสำคัญกับที่ตั้งของร้านหาได้ง่าย ในระดับมากที่สุด 4) ปัจจัยด้านการส่งเสริมการขาย ( = 3.45) โดยให้ความสำคัญกับการสะสมยอด เพื่อแลกของรางวัล ในระดับมาก 5) ปัจจัยด้านพนักงาน ( = 4.05) โดยให้ความสำคัญกับพนักงานมีความกระตือรือร้นในการให้บริการ ในระดับมาก 6) ปัจจัยด้านลักษณะทางกายภาพ ( = 4.14) โดยให้ความสำคัญกับความสะอาดของสถานที่ และอุปกรณ์ที่ใช้ชงชา ในระดับมากที่สุด 7) ปัจจัยด้านกระบวนการให้บริการ ( = 4.16) โดยให้ความสำคัญกับให้บริการด้วยความถูกต้องและแม่นยำ ในระดับมากที่สุด การตัดสินใจบริโภคน้ำชาของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร ( = 3.87) โดยตัดสินใจที่จะบริโภคน้ำชาเมื่อเห็นว่ามีรายการน้ำชาและอาหารที่ท่านอยากรับประทานในร้าน ในระดับมากที่สุด ผลการทดสอบสมมติฐานงานวิจัย พบว่า ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด ที่ประกอบด้วย ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านส่งเสริมการขาย และด้านกระบวนการ มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจบริโภคน้ำชาของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

The objectives of this research were 1) to study the consumer behavior in relation to consumption of tea among consumers in Bangkok, 2) to determine the marketing mix factors (7Ps) influencing their decision to drink tea, and 3) to examine the possibility in starting a tea room business in Bangkok. The sample group in this study included 400 male and female tea consumers residing in Bangkok. Questionnaires were used as the data collection tool. The statistical data analysis was conducted by using descriptive statistics including percentage, mean, and standard deviation, and inferential statistics for hypothesis testing. Demographic data from the questionnaires revealed that most respondents were female, aged 26-35 years old, married, office workers, had a bachelor’s degree, and had an average monthly income of THB30,000. In addition, it was found that their average tea consumption was 2-3 times per week during work hours. Black tea was the type of tea they chose most often. The preferred tea shop was the one with seating. The appropriate price of tea should be in the range of 40-54 baht per glass. They purchased tea at the tea shop, BTS station, or university. They decided to drink tea themselves. The reason for visiting a tea shop was to drink tea there. In terms of the marketing mix factors, the results were as follows: 1) Product ( = 3.97) – Most respondents indicated that the most important factor was the tea flavor and aroma; 2) Price ( = 4.02) – The reasonable price and quality was considered highly important; 3) Place ( = 4.24) – Easy access was considered the most important aspect; 4) Promotion ( = 3.45) – The promotion of point collection and redemption was highly preferred; 5) People ( = 4.05) –Staff enthusiasm was considered highly important; 6) Physical Evidence ( = 4.14) – Hygiene of the place and tea making equipment was regarded as the most important aspect; 7) Process ( = 4.16) – Precision and accuracy in servicing customers was considered the most important aspect. The decision of the consumers in Bangkok to drink tea ( = 3.87) was mostly based on the list of food and tea on the menu. The result from the hypothesis testing showed that the marketing mix factors of product, price, place, promotion, and process had an influence on the decision of consumers in Bangkok to drink tea, with a statistical significance of 0.05.