แผนธุรกิจร้านเจาไฉชาบู

Abstract

พฤติกรรมการรับประทานอาหารของคนไทยในปัจจุบันนิยมรับประทานอาหารนอกบ้าน เพื่อความสะดวก รวดเร็ว อีกทั้งยังไม่ต้องทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ในการรับประทานอาหาร ส่งผลให้ธุรกิจร้านอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการเติบโตสูงและรวดเร็ว ซึ่งประเภทอาหารที่คนไทยนิยมรับประทานมาก คือ อาหารประเภทบุฟเฟต์ ด้วยกระแสรักสุขภาพทำให้อาหารประเภทชาบูหม้อไฟ เป็นหนึ่งในอาหารที่เป็นกระแสนิยมของคนไทยแต่อย่างไรก็ตามกระทรวงสาธารณสุขก็มีการประกาศแจ้งแก่คนที่รับประทานชาบูว่า ปริมาณโซเดียมในน้ำซุปชาบูมีปริมาณสูงจึงควรระมัดระวังในการรับประทานชาบู เนื่องจากกระแสความนิยมอาหารประเภทดังกล่าว ทำให้เกิดแผนธุรกิจร้านชาบูที่มีจุดประสงค์ในการโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาความกังวลเกี่ยวกับน้ำซุป ซึ่งแผนธุรกิจร้านเจาไฉชาบูจะตอบสนองความต้องการผู้บริโภคโดยมีเมนูวัตถุดิบให้เลือกหลายชนิด วัตถุดิบมีการคัดสรรคุณภาพ มีการพัฒนาสูตรน้ำซุปให้สามารถปรับลดความเค็มหรือระดับโซเดียมได้เพื่อเป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพของกลุ่มคนที่นิยมรับประทานชาบู อีกทั้งร้านยังมีการเลือกธีมร้านมูเตลูที่มีความแตกต่างจากร้านชาบูที่อื่น ๆ แผนธุรกิจร้านเจาไฉชาบูประกอบด้วยการวิเคราะห์อุตสาหกรรม ภาพรวมธุรกิจร้านอาหาร วิสัยทัศน์ ภาพลักษณ์ของร้าน แผนการการตลาด การวางแผนตั้งแต่ก่อนเปิดร้านจนถึงการดำเนินงาน รวมถึงแผนการเงิน และการเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น จากการวิเคราะห์และศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการพบว่า ร้านเจาไฉชาบูใช้เงินลงทุนครั้งแรก จำนวน 3,525,490 บาท ซึ่งจะแบ่งออกเป็นค่าอุปกรณ์สถานที่ต่าง ๆ จำนวน 2,525,490 บาท และเงินสำหรับหมุนเวียนในธุรกิจจำนวน 1,000,000 บาท ร้านเจาไฉชาบูมีระยะเวลาในการคืนทุนโดยประมาณ 1 ปี 6 เดือน ซึ่งน้อยกว่าเป้าหมายที่ทางร้านเจาไฉชาบูตั้งไว้ และอัตราผลตอบแทนภายในโครงการ หรือ IRR มีค่าเท่ากับ 54% ทำให้ธุรกิจร้านเจาไฉชาบูมีความน่าสนใจในการลงทุนด้วยเป้าหมายทางการเงิน ความแปลกใหม่ของน้ำซุปและธีมของร้าน

Currently, the eating habits of Thai people tend to favor dining out for the sake of convenience. This has fueled the rapid growth of the restaurant industry. Buffet-style dining, especially hot pot and Shabu-shabu, is highly popular among Thais. Shabu-shabu, in line with health-conscious choices, has become trendy. However, the Ministry of Public Health warns about high sodium in the soup broth, advising caution for Shabu-shabu diners. As the popularity of these dining trends has risen, businesses in the Shabu-shabu industry have strived to meet consumer demands by offering a variety of ingredients and improving the quality of ingredients. They have also developed soup recipes that allow for reduced salt or sodium levels to cater to health-conscious customers. Additionally, these restaurants have chosen unique themes, setting themselves apart from other Shabu-shabu establishments. This Zhaocai shabu business is the result of a comprehensive analysis, considering the overall restaurant industry, the restaurant's vision, marketing plans, financial planning, and contingency planning. From this analysis, the Zhaocai Shabu business requires an initial investment of 3,525,490 Baht, mainly allocated to equipment and location expenses. The payback period is estimated to be 2 years and 3 months, surpassing the target. The Internal Rate of Return (IRR) for the project is 18.58%, making it an attractive investment opportunity in terms of financial return, unique soup offerings, and themed restaurant experience.