พฤติกรรมการรับชมละครโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยม กรณีศึกษา “บุพเพสันนิวาส”

Abstract

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษา 1) เพื่อศึกษาปัจจัยการได้รับความนิยมของละครโทรทัศน์ “บุพเพสันนิวาส” 2) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเปิดรับสารของผู้ชมละครโทรทัศน์ “บุพเพสันนิวาส” และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการรับชมละครโทรทัศน์ “บุพเพสันนิวาส” ซึ่งการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้จัดทำการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมการรับชมละครโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยม กรณีศึกษา “บุพเพสันนิวาส” ผู้ศึกษาเลือกใช้วิธีการวิจัยโดยการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative Research) เพื่อให้ทราบถึงการเปิดรับสาร ความพึงพอใจ และพฤติกรรมการรับชมของผู้ชม โดยทำการเก็บข้อมูลกับผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 400 คน ผลการศึกษาวิจัยพบว่า พฤติกรรมการรับชมละครโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยม กรณีศึกษา “บุพเพสันนิวาส” ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 20-29 ปี ประกอบอาชีพพนักงาน/ลูกจ้างเอกชน การศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ในด้านการเปิดรับสารนั้น ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่รู้จักและรับชมละครโทรทัศน์ เรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ผู้ชมรับชมตัวอย่างละครหรือสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ละครโทรทัศน์ เรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ผ่านโทรทัศน์ ส่วนใหญ่รับชมการออกอากาศสดของสถานีโทรทัศน์ ไทยทีวีสีช่อง 3 ซึ่งช่อง 3 ถือเป็นช่องสถานีที่ใช้ออกอากาศละครโทรทัศน์ เรื่อง “บุพเพสันนิวาส” เป็นช่องทางหลัก ผู้ชมส่วนใหญ่ติดตาม เพราะบทละคร และการดำเนินเรื่องมากที่สุด พฤติกรรมในการเปิดรับสารและพฤติกรรมในการรับชมละครโทรทัศน์ เรื่อง “บุพเพสันนิวาส” จากกระแสนิยมของละครทำให้ผู้ชมมีการรับชมและพฤติกรรมการเปิดรับมากขึ้น ผู้ชมส่วนใหญ่มีการนำเนื้อหาละครมาเป็นเรื่องสนทนาในชีวิตประจำวัน และมีความสนใจและนำภาษาไทยอยุธยามาพูดสนทนาในชีวิตจริง เพื่อความสนุกสนาน มีการนำส่วนหนึ่งของละครมาเล่าใหม่ให้เกิดความบันเทิงในสื่อออนไลน์ และผู้ชมมีความสนใจการแต่งกายสมัยอยุธยาแบบในละคร ต้องการท่องเที่ยวตามรอยละคร และผู้ชมสนใจอาหารที่สอดแทรกในละคร ยิ่งทำให้ละครโทรทัศน์ เรื่อง “บุพเพสันนิวาส เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ละครบุพเพสันนิวาสยังก่อให้เกิดกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวและสังคมของผู้ชม ผู้รับชมละครโทรทัศน์หลังข่าวภาคค่ำ ส่วนใหญ่มีความชื่นชอบละครแนวรักโรแมนติกรวมถึงตลกเบาสมอง สนใจความสามารถในการแสดงของนักแสดงนำจากละคร มีความสนใจในเรื่องเครื่องแต่งกายของนักแสดง เนื่องจากเครื่องแต่งกายมีความเหมาะสมกับบทบาทที่ได้รับ รวมถึงสนใจเพลงประกอบละครเพราะเนื้อหาของเพลงจดจำได้ง่ายและเนื้อหาของเพลงเป็นที่พอใจผู้ชมในช่วงดังกล่าว

This research aims to study 1) The popularity factor of the television drama "Love Destiny" 2) The effect of viewers exposure to television dramas such as "Love Destiny" 3) The satisfaction of watching the television drama "Love Destiny" In this research, the researcher studied popular TV drama viewing behavior, specifically the popular drama, "Love Destiny" (Quantitative Research) 400 respondents were interviewed for this study. Most respondents were female, aged 20 to 29, working as employees/private workers with Bachelor's degrees. Most respondents were familiar with or watch the TV drama "Love Destiny". Audiences watch trailers of the show or public relations media for "Love Destiny" on television. Thai Color TV Channel 3 is the most common medium for viewing the show. Most viewers follow the show because of the action and drama and the popularity of the show has created a “buzz”, and through “word of mouth” has increased the show’s popularity even more. The show is so popular that most of the viewers have even incorporated the old-fashioned Thai language into their daily conversation, just for fun. In order to increase the popularity of the show parts of the drama are retold to create entertainment in online media. It has been so successful that viewers are now becoming interested in the Ayutthaya era’s dress, and also want to travel to follow the drama scene. Also, the audience has become interested in the food that was inserted into the drama, making the television drama "Love Destiny" even more popular. In addition, the "Love Destiny" drama has inspired joint family and social activities among its audience. Most evening TV shows attract large audiences for romance dramas and lighthearted comedy, and "Love Destiny" has been especially successful in that way. Interest in the lead actor’s and actress’s costumes from the drama, and the show’s traditional theme song seems to have reawakened a fondness for traditional Thai culture.