แผนธุรกิจการจำหน่ายสิ่งทอทั่วไปและเครื่องประดับ “ล้านนานา”

Abstract

จากสถานการณ์การเติบโตของภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอในประเทศไทยในปัจจุบันมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความต้องการและจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นในทุก ๆ วัน สิ่งทอและเครื่องแต่งกายจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญและมีคุณค่าซึ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตประจำวัน สิ่งทอละเนื้อผ้ามีหลากหลายชนิดแต่ที่นิยมและเป็นมรดกของไทย คือ เส้นใยธรรมชาติที่ถักทอโดยคนไทยกลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและมรดกของคนไทย เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าไหม เป็นต้น ผสมผสานกับการออกแบบลวดลายในเนื้อผ้าที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยที่งดงามจึงทำให้มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในระดับสากล จึงเรียกผ้าชนิดนี้ว่า “ผ้าไทย” ทำให้คนไทยตระหนักถึงคุณค่าของผ้าไทย ทำให้มูลค่าของอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอใน ปี 2562 มีมูลค่าตลาด 559.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อให้ผ้าไทยกลายเป็นที่รู้จักและนิยมสวมใส่มากขึ้นในปัจจุบันนี้ จึงสร้างคุณค่าให้แก่ผ้าไทยโดยที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น การรณรงค์ให้ข้าราชการสวมใส่ชุดผ้าไทย เป็นต้น แม้ว่าผ้าไทยจะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและสามารถใส่ได้ในชีวิตประจำวันแต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมมากนักเนื่องจาก หาซื้อยาก ราคาสูง สวมใส่ยากและล้าหลัง เป็นต้น “ล้านนานา” ธุรกิจจำหน่ายสิ่งทอทั่วไปและเครื่องประดับ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าใยแก้ว ผ้าไทย ผ้าถุง สร้อย กำไล เข็มกลัด เป็นต้น ล้านนานาสามารถทำให้การสวมใส่ชุดผ้าไทยเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับชุดผ้าไทยทุกวัยและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้นตามเป้าหมายของธุรกิจ โดยเป้าหมายจะสำเร็จได้จากการวางแผนกลยุทธ์ การตลาด ของธุรกิจที่มีการวางแผนเป็นระบบเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย โดยเริ่มจากการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการและช่องทางการขายสินค้าในโซเชียลมีเดีย (Social Media) ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จึงเลือกใช้ช่องทางนี้เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก (Brand Awareness) จนนำไปสู่การสร้างความรับรู้ที่มีต่อแบรนด์ โดยจุดแข็งของธุรกิจเป็นการสร้างธุรกิจชุดผ้าไทยที่สามารถสั่งซื้อได้ง่าย คุ้มค่าคุ้มราคา สวมใส่ได้ง่ายและตอบสนองความต้องการของเพศหญิงทุกวัย สามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน โดยผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์ (Online) และออฟไลน์ (Offline) สามารถเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่และปรับเปลี่ยนวิธีการจำหน่ายสินค้าให้สะดวกและเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างง่ายดาย จนในปัจจุบันนี้ ธุรกิจล้านนานามุ่งเน้นที่จะเป็นที่หนึ่งในใจกลุ่มเป้าหมายในการจัดจำหน่ายชุดผ้าไทยสตรีผ่านช่องทางออนไลน์ (online) รวมถึงมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านผ้าไทยคอยแนะนำให้คำปรึกษาเกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อสินค้าสำหรับผู้บริโภคที่สนใจสินค้าแต่ไม่มีความรู้ด้านผ้าไทยหรือวิธีการสวมใส่มาก่อน ธุรกิจล้านนานา ได้ทำการจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด โดยมีทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาทจากประสบการณ์การทำธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 20 ปี จึงทำให้ระยะเวลาการคืนทุนสามารถคืนทุนได้เรียบร้อยแล้ว (Payback Period) ในปัจจุบันนี้ ซึ่งจากการวิเคราะห์แผนของธุรกิจและความเป็นไปได้ของธุรกิจตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่จัดตั้งบริษัทขึ้นมา มีความเป็นไปได้สูงที่ธุรกิจจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่า การจำหน่ายสินค้าในช่องทางออนไลน์ (Online) มีอัตราการเติบโตมากกว่าจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออฟไลน์ (Offline) ถึง 10 เท่า ทำให้ในปัจจุบันได้จำหน่ายแบบออนไลน์ถึง 98% ของการจัดจำหน่าย ซึ่งในปัจจุบันธุรกิจสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระดับที่ดีมาก โดยสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 5 เดือน (Payback Period) มีมูลค่าปัจจุบัน (NPV) อยู่ที่ 232% และมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) อยู่ที่ 33,267,426.57 บาท

Nowaday, situation of the textile industry in Thailand is growing steadily due to the increasing demand and population every day. Man-made Thai fabrics are a valuable assets and Thai heritage, such as silk and cotton. Thai fabrics show the uniqueness of Thailand, resulting in famous internationally. The value of the garment and textiles market in 2019 had capitalized US $ 559.8 million. Nowadays, many sectors had campaigned for civil servants to wear Thai clothes. Although Thai fabrics are distinctive and can be worn in everyday life but not popular because it is difficult to find, high price and difficult to wear. For this reason, it had become the origin of the “Lannana” business plan that can make it easy to wear Thai clothing for those who were interested in Thai clothing of all ages. The goal of the Lannana is the number one group of Thai clothing business. This goal can only be achieved through a well-planned business strategy. According to studies of consumer behavior, technology is now being used to meet the demand and the most popular social media sales channels. Therefore, choosing to use this channel to build the brand to be known, leading to building brand awareness. The strength of the business is to create a Thai clothing business that is easy to order, cost-effective, and easy to wear for women of all ages by selling through both online and offline channels. In addition, it can be easily accessible to consumers. At present, our focus is to be number one in the target audience and experts in Thai women’s clothing via online channels. Lannana was registered as a limited company with a registered capital of 1,000,000 baht. Since Lannana is a family business that has been running for 10 years, the payback period has been completed, which is based on the analysis of the business plan and the feasibility of the business over the 2 years of establishment. There is a high probability that the business will continue to grow. It was found that the sales of products in online channels grew 10 times more than selling products through offline channels. As a result, we are currently focusing on 98% of our online sales due to the very good return. The payback period of this business within 5 months with a net present value (NPV) of 232% and an internal rate of return (IRR) of 33,267,426.57 baht.