การเปรียบเทียบการรับรู้ของผู้บริโภคที่มีต่อการสื่อสารช่องทางการขายสินค้าลิฟท์บ้านระหว่างการตลาดแบบดั้งเดิม (Traditional marketing) และการตลาดดิจิทัล (Digital marketing) กรณีศึกษา: ลิฟท์บ้านแบรนด์ Easy Home Lift

Abstract

งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาภาพรวมในการดำเนินธุรกิจของแบรนด์ อีซี่ โฮม ลิฟท์ (Easy Home Lift) และปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคต้องการซื้อลิฟท์บ้าน รวมถึงเปรียบเทียบการรับรู้ของผู้บริโภคทีมีต่อการสื่อสารช่องทางการขายสินค้า (ลิฟท์บ้าน) ระหว่างการตลาดแบบดั้งเดิม (Traditional Marketing) กับการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) ของ แบรนด์ อีซี่ โฮม ลิฟท์ (Easy Home Lift) โดยเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) ผู้บริหารและผู้บริโภค รวมจำนวน 10 คน ผลการวิจัยพบว่า 1) การดำเนินธุรกิจของแบรนด์ Easy Home Lift เน้นไปในทางการทำการตลาดดั้งเดิม (Traditional Marketing) ไม่ว่าจะเป็นการออกอีเว้นต์ หรือการขายสินค้าตามสาขาเพียงเท่านั้น และในปัจจุบันแบรนด์ Easy Home Lift นั้นยังไม่ได้เน้นหรือมีการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์แบบจริงจัง โดยที่แผนระยะยาวของแบรนด์ Easy Home Lift นั้นต้องการที่จะพัฒนาช่องทางออนไลน์ของแบรนด์ให้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงการที่แบรนด์จะนำสินค้าไปขายในร้านไทวัสดุ 2) ปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคต้องการซื้อลิฟท์บ้าน แบ่งออกได้เป็น 5 ปัจจัยหลัก คือ อายุที่เพิ่มขึ้น ปัญหาสุขภาพ กำลังสร้างบ้าน หรือรีโนเวทบ้าน ซื้อสินค้าเพื่อไปขายต่อ (สถาปนิก ผู้รับเหมา) ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกต่าง ๆ 3) การเปรียบเทียบการสื่อสารช่องทางการรับรู้และขายสินค้าลิฟท์บ้าน ผู้บริโภคในปัจจุบันมักจะมีการค้นคว้าหาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับลิฟท์ผ่านช่องทางออนไลน์โดยเฉพาะ กูเกิล (Google) และในส่วนของการรับรู้แบรนด์ ผู้บริโภคส่วนใหญ่รับรู้แบรนด์ Easy home lift จากช่องทางออนไลน์เป็นส่วนมาก รองลงมาจะเป็นงานแสดงสินค้า ซึ่งเป็นอีเว้นต์ออฟไลน์ ส่วนของการตัดสินใจซื้อสินค้าลิฟท์บ้านผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถกล่าวได้ว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่สามารถตัดสินใจซื้อได้โดยทันทีเพราะสินค้าเป็นสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูง

The purposes of this qualitative research are to study the overview of business strategy of Easy Home Lift and factors influencing consumer’s decision to purchase home lift, including compare consumer awareness built by 2 product distribution channels of home lift marketing methods conducted by Easy Home Lift i.e. between traditional marketing and digital marketing; the study was done by means of conducting in-depth interviews of a target group of 10 executives and consumers. The study found that 1) Easy Home Lift’s current business strategy focuses more on doing traditional marketing which includes arranging events and making products available through its branches only, and the brand Easy Home Life has not yet exposed itself via online marketing as strongly. Accordingly, Easy Home Lift’s long-term marketing plan is to enhance/promote brand awareness and market its products more through online marketing channels including website, and Facebook; furthermore, Easy Home Lift will expand its distribution channel to Thai Watsadu; 2) 5 essential factors influencing consumer’s decision to purchase home lift are increase of age, health issues, home construction and renovation, resale purpose (for architect and contractor), other convenience purposes; 3) regarding the comparison of marketing and distribution channels of home lift, consumers, nowadays, tend to research about home lift via online search engine especially via Google, regarding brand awareness, consumer tends to most recognize the brand Easy Home Lift through online channel, then, via product exhibition fair. Additionally, the study also found that consumers are mostly unable to immediately make decision to purchase home lift through online channels as the price of the product is relatively high.