แผนธุรกิจดูแลรักษารถยนต์

Abstract

วัตถุประสงค์ในการจัดทำแผนธุรกิจนี้ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับปรุงพัฒนาภาพลักษณ์และรูปแบบการให้บริการของร้านแชร์ คาร์แคร์ เพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินธุรกิจ และยกระดับแบรนด์ให้มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น นำผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาใช้ในการให้บริการกับลูกค้า รูปแบบของธุรกิจเป็นธุรกิจประเภทการให้บริการดูแลรักษารถยนต์ครบวงจร ธุรกิจได้ทำการเก็บข้อมูลเพื่อนำมาใช้ในการจัดทำแผน โดยการเก็บรวมรวมผ่านการสำรวจความคิดเห็น โดยใช้แบบสอบถามปลายปิด (Close-ended Questionnaire) ซึ่งจะมีการวิเคราะห์ค่าสถิติโดยใช้โปรแกรม SPSS จำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 100 คน ประกอบไปด้วยข้อมูลจากกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ และกลุ่มผู้บริโภคที่มีความชื่นชอบและให้ความสนใจกับการดูแลรักษารถยนต์รวมถึงข้อมูลจากกลุ่มผู้บริโภคที่มีแนวโน้มในการจะเป็นลูกค้า ผลของแผนธุรกิจสรุปได้ว่าแผนธุรกิจครั้งนี้เป็นแผนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขยายธุรกิจจากธุรกิจเดิมซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวและได้ทำการประเมินสภาพแวดล้อมทางธุรกิจแล้ว พบว่าจุดแข็งที่สำคัญของธุรกิจคือประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจเป็นระยะเวลา 3 ปี รวมถึงคุณภาพของเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ที่นำมาใช้ในการให้บริการมีความทันสมัย การให้บริการและให้คำปรึกษาที่เป็นกันเองสามารถให้คำแนะนำและแก้ไขปัญหาได้อย่างชำนาญ จุดอ่อนของธุรกิจที่ต้องปรับปรุงแก้ไขคือ การเป็นที่รู้จักของแบรนด์ซึ่งขาดการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ ความรู้ความสามารถของผู้ให้บริการขาดความเข้าใจและความชำนาญในการใช้อุปกรณ์ต่างๆ อย่างถูกต้อง โอกาสของธุรกิจเนื่องจากปัจจุบันรถยนต์ภายในประเทศมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ธุรกิจการบำรุงรักษารถยนต์ซึ่งเกิดมารองรับเรื่องดังกล่าวนี้นั้นมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน จากการวิเคราะห์แผนธุรกิจในครั้งนี้ จึงได้บทสรุปของกลยุทธ์ที่นำมาใช้ในธุรกิจ นั่นคือการปรับปรุงรูปแบบของแบรนด์สร้างภาพลักษณ์ที่ดีซึ่งจะนำไปสู่ความน่าเชื่อถือของธุรกิจ จะเห็นว่ากิจการมีความมั่นคงทางการเงิน มีความสามารถในการทำกำไรและมีแนวโน้มในการดำเนินงานดีขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ จึงมีความคุ้มค่าที่จะลงทุนทำธุรกิจ โดยกิจการจะใช้ระยะเวลาในการคืนทุน อยู่ที่ประมาณ 3 ปี

The purpose of this business plan was to study the feasibility of improving the image and service of the shared car care business in order to set up the business model, to raise the brand to be more reliable and to bring quality products to serve customers. The business model was a full-service car care business. The data collected from a close-end questionnaire for 100 respondents, consumers who like to be served in car care service and the service business prospect was used with a used of SPSS program for data analysis. The results of the business plan, in fact, made from an expansion of the original as family business involved with an affiliate of another service business and even were assessed as the business environment were suggested that the strengths of the business were mainly dealt with the experience of doing business for 3 years long including the quality of tools and equipment for the service including a use of modern style services, friendly service and advices on a solution to the problems raised by the customer. The weaknesses of the business were involved in term of a poor advertisement and PR service. Poor knowledge and experience of the service workers in using the service equipment properly remained. With the increasing numbers of the domestic cars, the car maintenance service business has grown steadily. Based on the statistical analysis on the strategies of this business plan, it was suggested that the service style of the brand created such a good image, which would lead to the credibility of the business as a whole and even to form a secure finance for the business. The business could and would gain more profits and has tended to perform better. In addition, it is worth to put an investment on this sort of business. Moreover, the service business would presumably gain the payback period in about 3 years from now.