การศึกษาปัจจัยข้อมูลส่วนบุคคล ปัจจัยแรงจูงใจในการทำงาน และปัจจัยทัศนคติต่อการทำงานที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการทำงานเป็นทีมของพนักงานระดับปฏิบัติการในย่านอโศก จังหวัดกรุงเทพมหานคร

Abstract

งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความแตกต่างของปัจจัยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อศึกษาอิทธิพลของปัจจัยแรงจูงใจในการทำงาน และเพื่อศึกษาอิทธิพลของปัจจัยทัศนคติของพนักงานในองค์กร ที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการทำงานเป็นทีมของพนักงานระดับปฏิบัติการในย่านอโศก จังหวัดกรุงเทพมหานคร โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล และทดสอบความตรงของเนื้อหาและความน่าเชื่อถือด้วยวิธีของครอนบาร์คแอลฟ่ากับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 30 คน ในย่านอโศก ได้ระดับความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.792 และแจกให้กับพนักงานระดับปฏิบัติการในย่านอโศก จำนวน 400 คน ส่วนวิธีการทางสถิติแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ สถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ สถิติทดสอบหาความแตกต่างค่าที (t-test) และจะใช้สถิติทดสอบหาความแตกต่างค่าเอฟ (F-test) หรือการทดสอบความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคล ในด้านเพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ และระยะเวลาประสบการณ์การทำงาน มีผลต่อประสิทธิผลการทำงานเป็นทีมของพนักงานระดับปฏิบัติการโดยรวม แตกต่างกัน ส่วนด้านสถานภาพ มีผลต่อประสิทธิผลการทำงานเป็นทีมของพนักงานระดับปฏิบัติการโดยรวมที่ไม่แตกต่างกัน และ การใช้สถิติหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรด้วยวิธีวิเคราะห์การถดถอยแบบง่าย (Simple Regression Analysis) พบว่า ปัจจัยแรงจูงใจในการทำงาน และปัจจัยทัศนคติต่อการทำงาน ส่งผลต่อประสิทธิผลการทำงานเป็นทีมของพนักงานระดับปฏิบัติการในย่านอโศก

The objectives of this research are study to the differences in personal characteristics to study about the influence of work motivation and the influence of work attitude, which affecting operating employees teamwork effectiveness in Asoke area, Bangkok metropolitan area by using the questionnaires to collect data and test the validity of the content and reliability by Cronbach’s Alpha Coefficient with 30 persons in sample group, having 0.792 confidence level and give to 400 persons in the operational level in Asoke. The statistical methodology was divided into two types: Descriptive statistics and inferential statistics, using T-test and F-test. It showed that the personal factors of gender, age, education level, occupation, monthly income, and age of work affecting operating employees teamwork effectiveness in Asoke area, Bangkok metropolitan area, as the overall was different. On the other hand, the overall was not different in terms of status that affecting operating employees teamwork effectiveness in Asoke area, Bangkok metropolitan area. Furthermore, using statistical correlation with multiple regression analysis, showed the influence of work motivation and work attitude that affecting operating employees teamwork effectiveness in Asoke area, Bangkok metropolitan area.