ปัจจัยด้านการตลาดที่มีอิทธิพลต่อความต้องการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อมาชมมวยไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยทางจิตวิทยาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาชมมวยไทย (2) เพื่อศึกษาแรงจูงใจที่มีอิทธิพลต่อความต้องการมาชมมวยไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ (3) ส่วนประสมทางการตลาด (7P) ที่มีอิทธิพลต่อความต้องการมาชมมวยไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ (4) เพื่อศึกษารูปแบบของการดำเนินธุรกิจ กลยุทธ์ทางการตลาด และการจัดการนักท่องเที่ยวที่มีผลต่อความต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวเพื่อมาชมมวยไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในการวิจัยมีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจการจัดการแข่งขันมวยไทยโดยการสัมภาษณ์จากผู้จัดการแข่งขันมวยไทยอาชีพ และหัวหน้าค่ายมวยไทยอาชีพ โดยเป็นการสัมภาษณ์เชิงลึก เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างแบบสอบถามที่จะเก็บข้อมูลจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาชมมวยไทย ณ เวทีมวยราชดำเนิน และเวทีมวยลุมพินี ผู้วิจัยใช้การสุ่มอย่างง่าย และแบ่งสุ่มนักท่องเที่ยว ณ เวทีมวยราชดำเนิน และเวทีมวยลุมพินี ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ผู้วิจัยใช้หลักการวิเคราะห์จากโปรแกรมทางสถิติเพื่อหาค่าสถิติ ได้แก่ ค่าความถี่ (Frequency) และค่าร้อยละ (Percentage) ใช้สำหรับวิเคราะห์ปัจจัยส่วนบุคคล และปัจจัยด้านจิตวิทยา และค่าความคลาดเคลื่อน ใช้สำหรับวิเคราะห์ระดับความต้องการมาชมมวยไทย ความเห็นของนักท่องเที่ยวต่างชาติในด้านแรงจูงใจและการจัดการการตลาด สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ได้นำผลการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดจากการสัมภาษณ์ผู้จัดการแข่งขันมวยไทยอาชีพ และหัวหน้าค่ายมวยไทยอาชีพ มาวิเคราะห์เนื้อหาเพื่อทำการเชื่อมโยงสู่การจัดการการตลาด และการจัดการนักท่องเที่ยวที่มาชมมวยไทย จากการสัมภาษณ์ผู้จัดการแข่งขันมวยไทยอาชีพ และหัวหน้าค่ายมวยไทยอาชีพ ผลการศึกษา พบว่า มวยไทยเป็นรูปแบบการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมที่ดีมาก ทำให้เกิดอาชีพในวงกว้าง สมควรจัดคู่ชกอย่างมีความเสมอภาค และควรจัดมวยที่ชกที่สร้างความสนุก เพื่อดึงดูดใจนักท่องเที่ยว และอยากให้มีการสร้างโรงเรียนของการจัดมวย (โปรโมเตอร์) เพื่อเพิ่มมูลค่านักมวย มีเงินเดือนจากรัฐบาล ในเรื่องของการตัดสินอยากให้มีระบบที่สากลมากขึ้น และสามารถอธิบายให้ชาวต่างชาติที่รับชมได้เข้าใจ ในรายการมวยแต่ละรายการควรมีนักมวยต่างชาติร่วมชก เพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเชียร์เพื่อนร่วมชาติแข่งขัน และรัฐบาลควรให้การสนับสนุนกีฬามวยไทย เพื่อให้มวยไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้นกว่าเดิม จากการตอบแบบสอบถามจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ผลการศึกษา พบว่า แรงจูงใจทั้ง 2 ด้าน ได้แก่ แรงดึง (Pull Factors) และแรงผลัก (Push Factors) ไม่มีความสัมพันธ์กับความต้องการมาชมมวยไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนประสมการตลาดทางด้านผลิตภัณฑ์ ราคา ด้านสถานที่ ด้านบุคลากร ด้านกระบวนการในการให้บริการ และด้านลักษณะทางกายภาพ ไม่มีอิทธิพลต่อความต้องการมาชมมวยไทย ส่วนด้านการส่งเสริมการตลาด มีอิทธิพลต่อความต้องการมาชมมวยไทยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ให้ความสำคัญทางด้านการส่งเสริมการตลาดมากที่สุด ได้แก่ การสร้างสิ่งจูงใจพิเศษเพื่อกระตุ้นให้เกิดการอยากมาชม การโฆษณา หรือการประชาสัมพันธ์ที่สร้างภาพลักษณ์ให้กับมวยไทย และสร้างแรงดึงดูดให้กับนักท่องเที่ยว เนื่องจากมวยไทยเป็นส่วนหนึ่งในการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเลือกชมในส่วนของวัฒนธรรมไทยให้ครบตามความต้องการของแต่ละคน ดังนั้นการมาชมมวยไทยจึงไม่ใช่ปัจจัยหลัก ทำให้ไม่มีอิทธิพลโดยตรงต่อการมาท่องเที่ยวเมืองไทย

The objective of the study was to study (1) the personal data psychological and behavioral factors of foreigners to come to watch Thai Boxing. (2) Study push and pull factors that manipulate foreigners to come to watch Thai Boxing. (3) Study Marketing Mix (7P) that manipulates foreigners to come to watch Thai Boxing. (4) Study the patterns of business, marketing, and tourist management that affect the demand for foreigners to come to watch Thai Boxing. To understand the current situation of Thai boxing business, the researcher conducted qualitative research by using face to face interviewing technique to interview Thai Boxing manager and head of Thai Boxing camp to understand the current situation, threats and opportunities of Thai boxing business. The information is also used as a guideline for the quantitative questionnaire. The quantitative research was to interview respondents from the tourists who came to watch Thai Boxing at Rajadamnern Stadium and Lumpinee Stadium. The respondents were chosen by random sampling. For data analysis, the researcher used statistic software. Frequency and percentage are used for analyzing personal factors and psychological factors. Error values were used to analyze the level of demand to watch Thai Boxing, the opinion of foreign tourists in motivation and marketing management. From this study, the researcher found that push and pull factors were not statistically significant relate with the needs of foreign tourists who come to watch Thai Boxing. Marketing Mix (Product, Price, Place, People, Process, and Physical Environment) are not influence on the need to watch Thai Boxing. For Marketing Mix “promotion” has influence on the demand for Thai boxing was statistically significant. Since most tourists focus on Marketing Mix “promotion”. For example creating special incentives or activities to stimulate the desire to watch, advertising or publicity that creates the image for Thai boxing and attract tourists. Since Thai boxing is a part of cultural tourism. Most tourists choose to visit the Thai culture to meet the needs of each person. Therefore, Thai boxing is not the main factor. There is no direct influence on travel to Thailand.