การศึกษาบุคลิกภาพ วัฒนธรรมองค์กรการใช้เทคโนโลยี และการยอมรับเทคโนโลยีที่มีผลต่อ ประสิทธิผลในการใช้เทคโนโลยีในองค์กรของพนักงานราชการในกรุงเทพมหานคร

Abstract

การวิจัยมีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษา 1. เพื่อศึกษาความแตกต่างของข้อมูลส่วนบุคลมีผลต่อประสิทธิผลในการใช้เทคโนโลยีในองค์กรของพนักงานราชการในกรุงเทพมหานครที่แตกต่างกันและ 2. เพื่อศึกษาปัจจัยด้านบุคลิกภาพ ปัจจัยพฤติกรรมด้านวัฒนธรรมองค์กร และปัจจัยด้านการยอมรับเทคโนโลยีมีประสิทธิผลในการใช้เทคโนโลยีในองค์กรของพนักงานราชการในกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ พนักงานราชการในกรุงเทพมหานคร จำนวน 300 คน โดยใช้แบบสอบเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลและสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย สถิติเชิงพรรณนา และสถิติเชิงอนุมานด้วยการทดสอบ ค่าเฉลี่ยที (t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) และเมื่อพบความแตกต่างจะเปรียบเทียบเป็นรายคู่ (Multiple Comparisons) ด้วยวิธีการของ เชฟเฟ่ (Scheffe) และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุ (Multiple Regression Analysis) โดยพบว่าเพศชายและเพศหญิง มีประสิทธิผลต่อการใช้เทคโนโลยี โดยภาพรวมมีความแตกต่าง กลุ่มตัวอย่างที่มีอายุ 15-25 ปี กับกลุ่ม 46-55 ปี และกลุ่ม 26-35 ปี กับกลุ่มอายุ 46-55 ปี กลุ่มตัวอย่างระดับการศึกษาในระดับ อนุปริญญา/ปวส. และกลุ่มปริญญาตรี มีค่าเฉลี่ยแตกต่าง และกลุ่มระดับรายได้เฉลี่ยต่อเดือนมีประสิทธิผลที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยี โดยภาพรวมไม่มีความแตกต่างกัน ส่วนปัจจัยด้านการยอมรับ ปัจจัยด้านการบริหารงาน ปัจจัยด้านจิตสำนึก ปัจจัยด้านปัจเจกบุคคล ปัจจัยด้านเปิดรับประสบการณ์ และปัจจัยด้านหวั่นไหวมีผลต่อประสิทธิผลในการทำงาน แต่ปัจจัยด้านเปิดเผย ปัจจัยด้านบุคลิกภาพในการยอมรับ ปัจจัยด้านการใช้อำนาจ และปัจจัยด้านการหลีกเลี่ยง ไม่มีผลต่อประสิทธิผลในการทำงานของพนักงานราชการในเขตกรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

The objectives of this research study were: (1) to study the difference of personal information factor affecting effectiveness on technological usage of government employees in Bangkok, and (2) to study of personality, technological usage of organizational culture and technology acceptance factors affecting effectiveness on technological usage of government employees in Bangkok. The sample of this study included 300 government employees. Questionnaires were used as the data collection tool. Additionally, data were statistically analyzed using descriptive statistics including t-test, One-way ANOVA with the Scheffe’s Multiple Comparisons and Multiple Regression Analysis. The results indicated that the differences of personal information factor was affected the effectiveness on technological usage of government employees in Bangkok. It was composed of the difference of gender, the difference of age factor: 15-25 years and 46-55 years and between 26-35 years and 46-55 years, and the difference of education factor: diploma and bachelor, except the difference of salary factor was not different. The acceptance management, consciousness, personal, experience and fluctuating factors were affected effectiveness on technological usage of government employees in Bangkok. However, the exposing, personality adaptation, enforcement and avoidance factors were not affected effectiveness on technological usage of government employees in Bangkok with statistical significance of 0.05.