แผนธุรกิจบะหมี่จุใจ

Abstract

การจัดทำแผนธุรกิจฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงโอกาสในการประกอบธุรกิจบะหมี่จุใจ แผนธุรกิจได้จัดทำขึ้นสำหรับธุรกิจประเภทอาหารโดยเป็นการดำเนินธุรกิจใหม่ เทคนิคและวิธีการในการจัดทำแผนคือการวิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจ การวิเคราะห์การแข่งขันและการสำรวจที่ใช้แบบสอบถามกับตัวอย่างซึ่งเป็นบุคคลจำนวน 400 คนโดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบไม่อาศัยความน่าจะเป็น (Nonprobability Sampling) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นคือสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอ้างอิงผลการวิเคราะห์จากปัจจัยแวดล้อมภายในระบุว่า ธุรกิจบะหมี่จุใจ เจ้าของมีเชี่ยวชาญในการผลิตเส้นบะหมี่สดและแผ่นเกี๊ยวสามารถผลิตได้เองทำให้มีต้นทุนในการผลิตที่ถูกลงและมีปริมาณที่มากกว่าในการที่จะซื้อเส้นบะหมี่และแผ่นเกี๊ยวแบบสำเร็จรูป เพียงแต่เป็นธุรกิจที่เพิ่งเปิดใหม่อาจยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนักดังนั้นจึงต้องมีการโปรโมทผ่านทางช่องทาง Social Network อย่างต่อเนื่อง และผลการวิเคราะห์ จากปัจจัยแวดล้อมภายภายนอก พบว่าในปัจจุบันผู้บริโภคมักจะนิยมรับประทานอาหารที่มีราคาถูกและได้ปริมาณเยอะแต่จะมีปัญหาด้านการดำเนินธุรกิจประเภทเดียวกัน ดังนั้นทำให้ต้องใช้เวลาเพื่อที่จะให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงธุรกิจที่เรากำลังทำอยู่ ซึ่งสภาพการแข่งขันในธุรกิจนี้ค่อนข้างมีความรุนแรง เพราะคู่แข่งขันหลักที่สำคัญ คือ ร้านชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ข้อได้เปรียบคู่แข่งขันคือ ราคาถูกและปริมาณที่เยอะกว่า ในขณะที่ข้อเสียเปรียบทางการแข่งขันคือ เป็นธุรกิจที่เปิดใหม่ต้องมีการสร้าง รับรู้ให้กับผู้บริโภคกลยุทธ์ที่สำคัญในการทำธุรกิจคือ การสร้างการรับรู้ของด้านราคา ปริมาณและ การบริการที่ดี ธุรกิจบะหมี่จุใจ นำเงินมาลงทุนเป็นจำนวน 1,850,000 บาท โดยเงินลงทุนทั้งหมดเป็นของตนเอง โดยมีมูลค่าปัจจุบัน NPV เท่ากับ 348,244 บาท มีผลตอบแทนภายใน IRR เท่ากับ 38% การลงทุนของกิจการมีระยะเวลาคืนทุนอยู่ที่ 2.32 ปี หรือ 2 ปี 3 เดือน ของการลงทุน

The purpose of creating this business planning is to study the opportunity for engaging in JuJai Noodle business. The business plan is made for new investment in food business. The technique and method which using in doing the business plan are the analysis of business environmental factors, competitiveness and surveying with nonprobability sampling technique for 400 respondents. The statistics technique that using here is descriptive statistic which included percentage, mean, standard deviation and inferential statistics technique. The result from the internal factors analysis imply that the owner of Jujai Noodle business has expertise in producing fresh noodle and dumpling, because they can produce these inputs then making them have advantage in having low cost and also get more materials in production process than buying instant noodle and dumpling from outsources. Since the business is just start-up so few people do perceive the brand, therefore, it must keep promoting via social network continuously. The from the external factors analysis found that nowadays consumers would like to have the cheap priced meal with plenty amount of food but there is a problem from the other business in the same industry so it must take time to provide the information of our business to consumers. The competition in this business is quite high because the main important competitor is ChaiSeeBameeKeaw Shop which has advantage in the price and amount of food while our disadvantage is being a new business which need to create the perception to consumer. For the strategy, the important strategy is creating perception about the price, amount of food and good service to consumer. Jujai Noodle business invested in the business 1,850,000 million Bath by their own fund. Nowadys the business net present value (NPV) is 348,244 Bath with internal rate of return (IRR) at 38%. The payback period of the business is 2.33 year or 2 year 3 months from the internal investment.