ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมต่อการใช้จักรยานของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร

Abstract

การวิจัยเชิงปริมาณครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ เพื่อศึกษาความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมต่อการใช้จักรยานของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาคือกลุ่มประชาชนทั่วไปในเขตกรุงเทพมหานครจานวน 400 คน และทาการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนาและสถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐานคือ สถิต T-test สถิติ Anova สถิติ Pearson Chi-Square และสถิติ Pearson’s Correlation โดยกาหนดนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งจากผลการวิจัยสรุปได้ว่า การเปิดรับสื่อรณรงค์การใช้จักรยานในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา สื่อมวลชนทางโทรทัศน์ คือสื่อที่กลุ่มตัวอย่างเปิดรับมากที่สุด และพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงหลังการรับชมสื่อรณรงค์การใช้จักรยาน พบว่า ภายหลังการรับชมสื่อรณรงค์การใช้จักรยานกลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมการใช้จักรยาน จานวน 229 คน และไม่ใช้จักรยานในชีวิตประจาวัน จานวน 171 คน ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีการใช้จักรยานที่ใช้เพียง 198 คน โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้จักรยานในชีวิตประจาวันมากที่สุด คือใช้เพื่อออกกาลังกาย

Traffic congestion or traffic jam causes countries around the world to face personal, social, and environmental problems. Little researches on cycling knowledge, attitude, and practice have known. The study, therefore, employed the questionnaire-based survey administering 400 questionnaires to Bangkokians. The findings revealed that. The study contributes to develop a communication campaign promoting bicycle commuting. From the research, it can be concluded that 1-year exposure to cycling campaign through media is the most well accepted by the public. There’s a significant change in behavior after seeing the cycling campaign. 299 persons from the selected sample group cycle in their daily life while the other 171 persons do not. The is an improvement from previous year with only 198 persons. The purpose of cycling in their daily life is mostly for keeping fit.