ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อการรักษาพนักงานให้คงอยู่กับองค์กรใน อุตสาหกรรมการโรงแรมระดับ 5 ดาวในกรุงเทพมหานคร

Abstract

การศึกษาวิจัยเรื่อง “ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อการรักษาพนักงานให้คงอยู่กับองค์กรในอุตสาหกรรมการโรงแรมระดับ 5 ดาวในเขตกรุงเทพมหานคร” เป็นงานวิจัยเชิงปริมาณ โดยผู้วิจัยมีวัตถุประสงค์ในการศึกษา 1) ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อการรักษาพนักงานให้คงอยู่กับองค์กรในอุตสาหกรรมการโรงแรมตามลักษณะส่วนบุคคลที่แตกต่างกัน 2) อิทธิพลของคุณภาพชีวิตในการทำงานของพนักงานต่อปัจจัยที่จะส่งผลต่อการรักษาพนักงาน และ 3) อิทธิพลของความผูกพันและความภักดีที่ส่งผลต่อการรักษาพนักงานให้คงอยู่กับองค์กร การวิจัยนี้ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือ ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นพนักงานในโรงแรมระดับ 5 ดาวในกรุงเทพมหานครจำนวน 216 คน โดยมีระยะเวลาการเก็บข้อมูล ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2558 ผู้วิจัยใช้ t –Test, ANOVA และ Multiple Regression Analysis ในการวิเคราะห์ข้อมูลและทดสอบสมมติฐาน ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 21-25 ปี มีการศึกษาระดับปริญญาตรี และทำงานในแผนกต้อนรับ ผลการวิจัยพบว่า 1) พนักงานที่มีรายได้และประสบการณ์การทำงานแตกต่างกันมีปัจจัยที่จะส่งผลต่อการรักษาพนักงานให้คงอยู่กับองค์กรแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) 2) ความผูกพันและความภักดีมีอิทธิพลต่อปัจจัยที่จะส่งผลต่อการรักษาพนักงานให้คงอยู่กับองค์กรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) และ 3) คุณภาพชีวิตในการทำงานมีอิทธิพลต่อปัจจัยที่จะส่งผลต่อการรักษาพนักงานให้คงอยู่กับองค์กรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) ในภาพรวม ปัจจัยที่ส่งผลต่อการรักษาพนักงานให้คงอยู่กับองค์กรมากที่สุด 3 ลำดับ ได้แก่ การมีเกณฑ์การให้รางวัลและผลตอบแทนที่ชัดเจน และมีความเหมาะสมต่อความสามารถในการทำงาน (4.21/5.00) รองมาคือ การมีเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพและนโยบายการเลื่อนตำแหน่งงานที่ชัดเจน (4.16/5.00) และความหวังที่จะได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งงานสูงขึ้นเมื่อผลงานที่ทำแสดงออกถึงประสิทธิภาพ (4.13/5.00) ตามลำดับ การวิจัยนี้สามารถนำไปประยุกต์เพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหา ปรับปรุงและหลีกเลี่ยงปัจจัยการสูญเสียพนักงาน และการหาวิธีจูงใจให้พนักงานเกิดความผูกพันกับองค์กรได้ ตลอดจนเป็นข้อมูลในการพัฒนาระบบการบริหารทรัพยากรบุคคลเพื่อให้องค์กรมีความยั่งยืน

The study “Factors affecting employee retention of five-star hotels in Bangkok” was a quantitative research. Its objectives were 1) to study whether different factors should be used to retain personnel with different personal qualities; 2) to study the influence of employee engagement and loyalty on retention factors; and 3) to study the influence of worklife quality on retention factors. Questionnaires were used to collect data from 216 samples during December 1, 2014 to January 1, 2015. The data were analyzed using t-test, ANOVA, and Multiple Regression Analysis. Most respondents were female, aged between 21 and 25, holding a Bachelor’s degree and worked in the front office department. The results showed that 1) personnel having different levels of income and work experience statistically significantly required different retention factors (p < 0.001); 2) the employee engagement and loyalty had a statistically significant influence on retention factors; and 3) the employee’s work-life quality also had a statistically significant influence on retention factors. In addition, the study revealed that the three most important factors to retain employees were 1) clear and suitable rewarding criteria for high performing employees (4.21/5.00); 2) clear career path and promotion policy (4.16/5.00); and 3) opportunity for promotion for high performing employees (4.13/5.00). The research results could be used by five-star hotels as guidelines to develop their organizational retention plan, to prevent and to solve retention problems. In addition, the studies showed how hotels could motivate their employees to become more engaged with the organization. Finally, the results could be used as part of the process in developing human resource system to support business sustainability.