การให้ความสำคัญและการรับรู้กลยุทธ์การตลาดบริการโดยใช้กลยุทธ์ Q-MARK ของลูกค้าร้านเบเกอรี่คาเฟ่ในจังหวัดภูเก็ต

Abstract

การศึกษาการให้ความสำคัญและการรับรู้กลยุทธ์การตลาดบริการ (Q-MARK) ของลูกค้าร้านเบเกอรี่คาเฟ่ในจังหวัดภูเก็ต มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การตลาดบริการ (Q-MARK) จำแนกตามลักษณะประชากรของลูกค้า และ 2) ศึกษาการรับรู้กลยุทธ์การตลาดบริการ (Q-MARK) จำแนกตามลักษณะประชากรของลูกค้า 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความ สำคัญและการรับรู้ของลูกค้าที่มีต่อกลยุทธ์การตลาดบริการสำหรับธุรกิจเบเกอรี่ (Q-MARK) 4) ศึกษาควมคิดเห็นองผู้ประกอบการธุรกิจเบเกอรี่เกี่ยวกับปัจจัยความสำเร็จในการบริหารกิจการ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากลูกค้าร้านเบเกอรี่ในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 400 คน แล้วนำมาวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย Independent Sample t-test, One-Way ANOVA และ Pearson ในการวิเคราะห์ข้อมูล ผลการศึกษาพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามเป็นชายและหญิงเท่ากัน มีอายุ 20 ปีหรือต่ำกว่า กำลังศึกษาหรือมีการศึกษาระดับปริญญาตรี มีสถานภาพโสด และมีรายได้ 10,000 บาทหรือต่ำกว่า ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า 1) ลูกค้าเพศชายให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์มากกว่าลูกค้าเพศหญิง และลูกค้าที่มีระดับการศึกษาต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. ให้ความ สำคัญกับกลยุทธ์ด้านการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการมากกว่าลูกค้าที่มีระดับการศึกษามัธยม ศึกษาตอนปลาย/ปวช. และสูงกว่า และยังพบว่า 2) ลูกค้าเพศหญิงรับรู้การใช้กลยุทธ์ราคาเหมาะสมกับตลาดมากกว่าลูกค้าเพศชาย และลูกค้าที่มีระดับการศึกษาต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. รับรู้การใช้กลยุทธ์การสื่อสารตลาดแบบบูรณาการมากกว่าลูกค้าที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. และสูงกว่า และลูกค้าที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. รับรู้การใช้ กลยุทธ์การสื่อสารตลาดแบบบูรณาการมากกว่าลูกค้าที่มีระดับการศึกษาหรือกำลังศึกษาปริญญาตรี และสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 3) การศึกษาความสัมพันธ์กลยุทธ์การตลาดบริการสำหรับธุรกิจเบเกอรี่ (Q-MARK) กับการรับรู้ของลูกค้าในการใช้กลยุทธ์การตลาดบริการสำหรับธุรกิจเบเกอรี่ (Q-MARK) มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = 0.51, p = 0.000)

This quantitative study aimed 1) to explore whether customers of different demographic profiles placed different degrees of importance on service marketing strategies for bakery shops (Q-MARK) in Phuket and 2) to explore customer perceptions of the application of those strategies differently based on their demographic characteristics. Data were collected from 400 customers of bakery shops in Phuket, and later were analyzed employing percentage, means, independent sample t-test, One-Way ANOVA and Pearson. The results showed that respondents were equally divided among male and female. Most of them were single of 20 years old or lower, held a bachelor’s degree or currently a bachelor’s student, having an income of less than 10,000 baht per month. The hypothesis testing found that male customers significantly placed more importance on the quality dimension of Q-MARK than female customers and customers having an educational level of lower than high school were more significantly aware of integrated marketing communication effort than customers with high school education or equivalent and those with bachelor’s degrees or higher. The results also showed that female customers were more aware of whether the pricing strategy is suitable for the particular market than male customers and customers having an educational level of lower than high school diplomas/vocational certificates were more aware of integrated marketing communication strategy than those with high school diplomas/vocational certificates and higher. Customers with high school diplomas/vocational certificates were more aware of integrated marketing communication strategy than those having or currently pursuing bachelor’s degrees and higher.