การศึกษาเปรียบเทียบผลการสอนคณิตศาสตร์ เรื่อง ลำดับและอนุกรม โดยใช้และไม่ใช้คาสเซตเทปประกอบการสอน แก่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

Abstract

ความมุ่งหมายของการวิจัย เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ เรื่องลำดับและอนุกรม ระหว่างผลการสอนสามแบบคือ แบบเก่า แบบบรรยายตามคู่มือ และแบบใช้คาสเซตเทปบรรยายตามคู่มือแก่นักศึกษากลุ่มเก่ง กลุ่มปานกลาง และกลุ่มอ่อน โดยแบ่งตามเพศเพื่อสร้างบทเรียนและคาสเซตเทป ประกอบการสอน และเพื่อให้นักศึกษาที่เรียนไม่เข้าใจในห้องเรียน สามารถนำบทเรียนและคาสเซตเทปไปศึกษาเพิ่มเติมนอกเวลาเรียนได้ วิธีดำเนินการวิจัย สุ่มนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ปีการศึกษา 2529 จำนวน 243 คน แล้วแบ่งผู้เรียนออกเป็นสามกลุ่ม ๆ แรกสอนแบบเก่า กลุ่มที่สองสอนโดยผู้สอนบรรยายตามคู่มือ และกลุ่มที่สามสอนโดยใช้คาสเซตเทปบรรยายตามคู่มือ ใช้เวลาสอนกลุ่มละ 6 คาบ โดยผู้สอนคนเดียวกัน เมื่อสอนจบแล้ว 2 – 3 วัน ก็ให้ผู้เรียนทำข้อสอบ เพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ ผลการวิจัย สรุปได้ว่า ผลการสอนทั้งสามวิธีมิได้ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษากลุ่ม (หรือระดับ) ใด เพศใด

The Purpose of the Study To compare first year students’ achievement on Sequences and Series in Mathematics through Three different teaching methods, namely: traditional method, lecture – based – on –selected – textbooks method: and the use of cassette tape method. Procedures Two hundred and forty-three first year students were selected from the Faculty of Business Administration. They were divided into three equal groups. Each group has a mixture of levels of intelligence. They were of both sexes. The traditional method was used for the first group: the lecture method to the second: and the cassette tape method to the third. Each of the three group was taught for six periods by the same teacher. An assessment of the students’ achievement was then made. Finding There is no statistically significant difference in the performance of the three groups of students regardless of their level of intelligence on their sex.