รูปแบบธุรกิจรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่สำหรับการจัดเลี้ยงทางธุรกิจ (Off-Premise Catering) ที่ประสบความสำเร็จในเขตกรุงเทพมหานคร

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบธุรกิจรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่สำหรับการจัดเลี้ยง ทางธุรกิจ (Off-Premise Catering) ที่ประสบความสำเร็จในเขตกรุงเทพมหานคร มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้บริการธุรกิจรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่สำหรับการจัดเลี้ยงทางธุรกิจ 2) เพื่อศึกษาปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ ที่มีผลต่อการใช้บริการธุรกิจรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่สำหรับการจัดเลี้ยงทางธุรกิจ 3) เพื่อศึกษาความต้องการ ความคาดหวัง และความพึงพอใจของผู้ใช้บริการธุรกิจรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่สำหรับการจัดเลี้ยงทางธุรกิจ 4) เพื่อศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับทัศนคติด้านส่วนผสมทางการตลาดที่มีผลต่อการเลือกใช้บริการธุรกิจรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่สำหรับการจัดเลี้ยงทางธุรกิจ โดยใช้ วิธีเก็บข้อมูลผ่านกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม คือ ผู้ที่เคยติดต่อจัดหา หรือผู้ใช้บริการในเขตกรุงเทพมหานคร จากการแจกแบบสอบถามจำนวน 100 ชุด และผู้ประกอบการผ่านการสัมภาษณ์ข้อมูลเชิงลึก จำนวน 7 ราย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ หาค่าความถี่ หาค่าร้อยละ หาค่าเฉลี่ย ผ่านโปรแกรมสถิติสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ (Statistic Package for Social Sciences หรือ SPSS) จากนั้นนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ร่วมกับการสัมภาษณ์ และนำเสนอข้อมูลในรูปแบบการวิเคราะห์เชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยด้านพฤติกรรมผู้ใช้บริการ ส่วนใหญ่มักใช้ผู้ให้บริการจัดเลี้ยงราย เดิม ๆ แต่มีบางรายที่ลองเปลี่ยนใช้บริการจากผู้ให้บริการจัดเลี้ยงรายใหม่ โดยรู้จักผู้ให้บริการรายใหม่จากสื่อประชาสัมพันธ์ออนไลน์ เช่น Website, Facebook และสื่อออนไลน์อื่น ๆ ส่วนรูปแบบการจัดเลี้ยงที่ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นการจัดในที่ร่ม โดยมีวัตถุประสงค์การจัดงานเลี้ยงเพื่อสร้างความสัมพันธ์ภายในองค์กร ส่วนงานจัดเลี้ยงนอกสถานที่เป็นประจำ คือ จัดเลี้ยงงานประจำปี ส่วนใหญ่จัดงานหลัง 18:00 น. และมีระยะเวลาในการจัดเลี้ยงในแต่ละครั้ง 3-4 ชั่วโมง ส่วนใหญ่มีความถี่ในการใช้บริการธุรกิจจัดเลี้ยง ปีละ 1 ครั้ง และผู้ที่มาร่วมงานหลักของงานจัดเลี้ยง คือ พนักงาน โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานจัดเลี้ยงใน แต่ละครั้งประมาณ 100 คนขึ้นไป ประกอบกับมีงบประมาณในการจัดงานแต่ละครั้ง 20,001 – 40,000 บาท (เฉพาะค่าอาหาร) กิจกรรมในงานจัดเลี้ยง นอกเหนือจากด้านอาหาร ได้แก่ การแสดง ดนตรี โชว์บันเทิงต่าง ๆ 2) ปัจจัยด้านการตลาดที่มีผลต่อการเลือกใช้บริการ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามให้ความ สำคัญต่อการเลือกใช้บริการปัจจัยด้านการตลาดโดยรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ผู้ใช้บริการให้ความสำคัญต่อการเลือกใช้บริการปัจจัยด้านการตลาดมากที่สุดเกี่ยวกับด้านราคา และคุณภาพของการ และบริการคุณภาพของอาหาร และให้ความสำคัญต่อการเลือกใช้บริการปัจจัยด้านการตลาดน้อยที่สุด คือ ด้านการส่งเสริมการขาย และจากสัมภาษณ์ที่พบว่า ผู้ให้บริการธุรกิจรับจัดเลี้ยงส่วนใหญ่มีทั้งกลุ่มจัดเลี้ยงมื้ออาหารว่าง และกลุ่มมื้ออาหารหลัก และจุดเด่นของธุรกิจจัดเลี้ยง คือ ราคาถูกซึ่งกลุ่มลูกค้า คือ พนักงานบริษัทฯ เป็นหลัก รองลงมาเป็นหน่วยงานราชการ สำหรับการแข่งขันของธุรกิจประเภทนี้มีสูงมาก เนื่องจากลงทุนที่ง่าย ดังนั้นกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นองค์กร หรือบริษัท ความต้องการพิเศษ คือ ราคาถูก คุณภาพดี อาหารอร่อย แต่ผู้ให้บริการธุรกิจรับจัดเลี้ยงส่วนใหญ่มีปัญหา และอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ คือปัญหา “ปัญหาด้านการแข่งขันทางธุรกิจ” “ปัญหาด้านพนักงาน” “ราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น” สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาด และการประชาสัมพันธ์ธุรกิจ ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ทางเฟสบุ๊ค IG ไลน์ รูปแบบปากต่อปาก นามบัตร เป็นต้น

The purpose of this research is to study about the nature of the successful catering service providers in Bangkok. The objectives of this study are 1) To study about consumer behavior on how to select catering service provider for business purposes. 2) To study about the demographic of catering service users. 3) To study about customer’s need, expectation and satisfaction when using catering service. 4) To study about catering service user’s attitudes by focusing on how marketing mixed can influence customer’s decision making process in selecting the service providers. The research method was designed by selecting 2 focus groups which are “end user” and “service-sourcing” of catering service in Bangkok. The 100 questionnaires were distributed to the catering service users to collect data and 7 of catering service providers were interviewed to collect in-depth information. This research employed the statistical analysis methods to find relation of frequency, percentage and mean by using Statistic Package for Social Sciences or SPSS to process the data and then analyzed altogether with interview information and presented in descriptive analysis method. The research found that 1) the catering service users usually repeat hiring the catering service providers, only a few users decided to hire new service providers by getting introduced through online channels e.g. website, Facebook and other social media platforms. The catering service users usually organized events indoor rather than outdoor venue and the purpose of hiring is to create entertaining ambience for the event and developing good team relationship within the organization. Most common organized event for corporates is “annual party” which normally starts after 18:00 pm. and the duration is from 3-4 hours on regular basis. It is usually a once-a-year event for a company to organize this kind of event where there are 100 and above employees representing all business units present at the venue. The budget allocation for food and beverage per event is ranging from 20,001 – 40,000 Baht. Additional entertainments also featured in this kind of event for example; performances and live bands. 2) The marketing mixed is also taken into consideration when selecting catering service company. The most considering factor is price and quality of the food and services, while the least considering factor is sales promotion. The interviewees mentioned that there are several types of catering services, some are coffee break caterers which provide snake boxes and some are banquet caterers which provide proper dining experience. The selling point of catering service is the competitive pricing where there are varieties of service users from private and public sectors respectively. The business climate is relatively high competitive due to the small capital investment required to setup the business that allows high threat of new entrants. The caterers also encountered shortage of manpower and high bargaining power of supplier while most clients are seeking for the best quality of service at the cheapest price. The marketing strategy to help promoting this business would gear towards online channels e.g. Facebook, Instagram, and Line whereby word-of-mouth and traditional business card exchanges are also effective.